แหล่งข้อมูลสำหรับสื่อมวลชน > ข่าวประชาสัมพันธ์

สินค้า > เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน

ซัมซุงเปิดตัวเครื่องซักผ้าฝาบนรุ่นแรกที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความประหยัดที่เหนือกว่า

02-04-2025
แบ่งปันข่าวสาร

สัมผัสประสบการณ์การซักผ้าที่เหนือกว่า ด้วยเทคโนโลยี AI Wash, AI Energy Mode และ AI VRT+™ ที่ผสานพลัง AI เพื่อการซักผ้าที่อัจฉริยะ ประหยัดพลังงาน และเงียบสนิท

 

 

ซัมซุง เปิดตัว Bespoke AI Top Load Washer เครื่องซักผ้าฝาบนขนาด 25 นิ้ว, 24 นิ้ว และ 21 นิ้ว ซึ่งเตรียมวางจำหน่ายในทั่วโลก[1] เครื่องซักผ้าฝาบนรุ่นใหม่เหล่านี้เป็นครั้งแรกที่ซัมซุงนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องซักผ้าฝาบน ด้วยฟังก์ชัน AI สามประการ ได้แก่ AI Wash, AI Energy Mode และ AI Vibration Reduction Technology Plus (VRT+™) เครื่องซักผ้ารุ่นใหม่นี้จึงมอบประสบการณ์การซักผ้าที่ชาญฉลาด มีประสิทธิภาพ และเงียบสงบ[2]

 

Jeong Seung Moon, EVP and Head of the R&D Team at Digital Appliances Business at Samsung Electronics. กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องซักผ้าที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี AI อันหลากหลายของซัมซุงไปยังเครื่องซักผ้าฝาบน เพื่อให้ผู้บริโภคที่มีความต้องการที่แตกต่างกันสามารถได้รับประโยชน์จากประสบการณ์การซักผ้าที่สะดวกสบาย ด้วยคุณสมบัติอย่าง AI Wash, AI Energy Mode และ AI VRT+™ เรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ยกระดับประสบการณ์การซักผ้า โดยการดูแลรักษาเนื้อผ้าให้ดียิ่งขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และทำให้การทำงานที่เงียบสงบเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น”

 

สัมผัสประสบการณ์การซักผ้าที่สมบูรณ์แบบ ด้วยเทคโนโลยี AI อัจฉริยะ

เครื่องซักผ้ารุ่นใหม่นี้มาพร้อมกับเทคโนโลยี AI Wash[3] ของซัมซุง ซึ่งสามารถตรวจจับประเภทและน้ำหนักของผ้าได้อย่างชาญฉลาด เพื่อแนะนำการตั้งค่าที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผ้า โดยอาศัยข้อมูลสภาพของผ้าที่ตรวจจับได้ ระบบจะใช้ AI ในการแนะนำการตั้งค่าที่เหมาะสม เช่น ระดับน้ำ ความแรงในการปั่น และระยะเวลาการซักและการล้าง สำหรับผ้าบาง AI Wash จะทำการซักอย่างอ่อนโยนเพื่อลดการสึกหรอ ทำให้ผ้าได้รับการปกป้องมากขึ้นถึง 25%[4] สำหรับผ้าที่มีความหนา ระบบจะทำการซักอย่างทั่วถึงและสม่ำเสมอโดยไม่ทิ้งคราบตกค้าง นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถใช้ประโยชน์จากโหมด AI Energy ผ่าน SmartThings Energy[5] ซึ่งจะช่วยลดการใช้พลังงานได้ถึง 20%[6]

 

เทคโนโลยี AI VRT+™ ช่วยให้เครื่องทำงานเงียบยิ่งขึ้น พร้อมปรับการทำงานให้เหมาะสมกับสภาพพื้นผิวต่างๆ โดยระบบ VRT+™ รุ่นพัฒนาล่าสุดนี้จะรวบรวมสัญญาณต่างๆ ที่ตรวจจับได้จากเครื่องซักผ้า และส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ AI[7] ซึ่งจะทำการวิเคราะห์ประเภทของพื้นผิวที่เครื่องซักผ้าตั้งอยู่[8] จากนั้น เซิร์ฟเวอร์จะใช้  AI ในการคำนวณการตั้งค่าที่เหมาะสม เพื่อให้เครื่องซักผ้าทำงานโดยมีเสียงรบกวนและการสั่นสะเทือนน้อยลงในระหว่างรอบการซัก ทำให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์การซักผ้าที่เงียบสงบยิ่งขึ้น

 

 

ประสิทธิภาพการทำงานที่คุ้มค่า ด้วยเทคโนโลยี Ecobubble™

เครื่องซักผ้าฝาบนรุ่นใหม่นี้มาพร้อมกับเทคโนโลยี Ecobubble™ ซึ่งมอบประสิทธิภาพการทำความสะอาดที่ดียิ่งขึ้น พร้อมทั้งลดความเสียหายของเนื้อผ้า เทคโนโลยีนี้ประกอบด้วยส่วนประกอบหลักสองส่วน ได้แก่ BubbleStorm™ ซึ่งเป็นอุปกรณ์คล้ายพัดลมที่ละลายผงซักฟอกให้กลายเป็นฟอง เพื่อให้ซึมเข้าสู่เนื้อผ้าได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และ Dual Storm™ ซึ่งเป็นตัวปั่นที่ผสมฟองและเสื้อผ้าเข้าด้วยกันอย่างทั่วถึง ด้วยการรวมส่วนประกอบเหล่านี้เข้าด้วยกัน Ecobubble™ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถซักผ้าได้อย่างทั่วถึง โดยใช้พลังงานน้อยลงถึง 25%[9] และใช้น้ำน้อยลง 14%[10] เทคโนโลยีนี้ช่วยให้ผงซักฟอกซึมเข้าสู่เนื้อผ้าได้เร็วกว่าเดิม 2.5 เท่า[11] และยังช่วยดูแลรักษาเนื้อผ้าได้ดีขึ้นถึง 20%[12] ลดการสึกหรอของเสื้อผ้า

 

สำหรับผู้ที่ต้องการซักผ้าอย่างเร่งด่วน ตัวเลือก Super Speed สามารถซักผ้าหนึ่งถังได้ในเวลาเพียง 31 นาที[13] ซึ่งเร็วกว่าการซักแบบปกติถึง 40% โดยยังคงประสิทธิภาพการทำความสะอาดที่ดีเยี่ยม

 

 

ฟังก์ชันพิเศษที่ยกระดับประสิทธิภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้น

เครื่องซักผ้ารุ่นใหม่นี้ยังมาพร้อมกับการเชื่อมต่อ SmartThings ซึ่งช่วยให้สามารถจัดการเครื่องซักผ้าจากระยะไกลได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น เพื่อให้มั่นใจถึงความทนทานในระยะยาวและประสิทธิภาพที่เชื่อถือได้ มอเตอร์ Digital Inverter จึงได้รับการรับประกัน 20 ปี[14]

 

ฟังก์ชัน Hygiene Steam และ Stain Wash มอบโซลูชันการทำความสะอาดเฉพาะทาง เพื่อการซักผ้าที่สะอาดอย่างเหนือระดับ[15] Hygiene Steam ใช้ไอน้ำร้อนเพื่อขจัดแบคทีเรียบางชนิด[16] และคราบฝังแน่น[17] ได้ถึง 99.9%[18] โดยไม่จำเป็นต้องทำการซักผ้าเบื้องต้น ส่วน Stain Wash มอบตัวเลือกในการใช้น้ำอุ่นหรือน้ำร้อน เพื่อขจัดสิ่งสกปรกและคราบได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถทำความสะอาดคราบในชีวิตประจำวัน เช่น คราบเหงื่อ ได้ที่อุณหภูมิ 40 องศาเซลเซียส[19]

 

เครื่องซักผ้าฝาบนรุ่นใหม่นี้จะทยอยเปิดตัวในภูมิภาคต่าง ๆ โดยมีให้เลือกถึงห้าสี ได้แก่ สีดำคาเวียร์ สีถ่านเข้ม สีเทาลาเวนเดอร์ สีขาว และสีน้ำเงิน[20] เครื่องซักผ้ารุ่นเหล่านี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภคทั่วโลก พร้อมมอบประสิทธิภาพอันทรงพลังและความประหยัดที่ดียิ่งขึ้น เพื่อประสบการณ์การซักผ้าที่สะดวกสบายและเชื่อถือได้

 

เชิงอรรถ

[1] เครื่องซักผ้าฝาบน Bespoke AI Top Load Washer พร้อมให้คุณสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ในเกาหลี ไต้หวัน ฮ่องกง เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียตะวันตกเฉียงใต้ ละตินอเมริกา ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ในปี พ.ศ. 2568

[2] ใช้กับเครื่องซักผ้ารุ่น WA80F*******

[3] การตรวจจับประเภทผ้าใช้ AI ในการตรวจจับผ้าสามประเภท (ผ้าปกติ ผ้าบอบบาง ผ้าขนหนู) สำหรับผ้าที่มีน้ำหนักไม่เกิน 3 กิโลกรัม การซักผ้าคละประเภทอาจลดความแม่นยำในการตรวจจับ ผลลัพธ์ที่ได้จริงอาจแตกต่างกันไปตามการใช้งานของผู้ใช้แต่ละราย เพื่อป้องกันการสึกหรอ ควรซักผ้าประเภทเดียวกันพร้อมกัน

[4] อ้างอิงจากการทดสอบภายในกับรุ่น WA80F/25 โดยใช้ผ้า IEC น้ำหนัก 3 กิโลกรัม (ระดับน้ำ 6) เปรียบเทียบกับรอบการซักปกติ ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปตามสภาพการใช้งานจริง

[5] โหมด AI Energy สามารถใช้ได้กับรอบการซัก Normal, AI Wash, Super Clean, Jeans, Aqua Preserve, Towels และ Clean Wash สามารถใช้งานได้บนอุปกรณ์ Android และ iOS จำเป็นต้องมีการเชื่อมต่อ Wi-Fi และบัญชีซัมซุง

[6] ทดสอบโดยซัมซุงกับรุ่น WA80F/25 โดยใช้ผ้าหนัก 5 กิโลกรัมในรอบการซัก AI Wash และระดับน้ำ 6 ผลลัพธ์ที่ให้โดย Intertek และได้รับการตีความโดย Intertek ระยะเวลาการซักอาจเพิ่มขึ้นเมื่อใช้โหมด AI Energy

[7] จำเป็นต้องมีการเชื่อมต่อ Wi-Fi หากไม่มีการเชื่อมต่อ Wi-Fi เครื่องจะใช้อัลกอริทึมภายในของเครื่องซักผ้า

[8] จำเป็นต้องติดตั้งแบบตั้งอิสระและปรับระดับเพื่อให้ทำงานได้อย่างแม่นยำ

[9] ทดสอบโดยซัมซุงกับรุ่น WA80F/25 ขนาด 16 กิโลกรัม ที่มีเทคโนโลยี Ecobubble™ และมอเตอร์ Digital Inverter โดยใช้ผ้า IEC น้ำหนัก 3 กิโลกรัม (ระดับน้ำ 4) เปรียบเทียบรอบการซักปกติที่มี Ecobubble™ กับรอบการซักปกติที่ไม่มี Ecobubble™ ผลลัพธ์ที่ให้โดย Intertek และได้รับการตีความโดย Intertek

[10] ทดสอบโดยซัมซุงกับรุ่น WA80F/25 ขนาด 16 กิโลกรัม ที่มีเทคโนโลยี Ecobubble™ และมอเตอร์ Digital Inverter โดยใช้ผ้า IEC น้ำหนัก 3 กิโลกรัม (ระดับน้ำ 4) เปรียบเทียบรอบการซักปกติที่มี Ecobubble™ กับรอบการซักปกติที่ไม่มี Ecobubble™ ผลลัพธ์ที่ให้โดย Intertek การประหยัดน้ำอยู่ที่ 13% สำหรับเครื่องซักผ้าขนาด 24 นิ้ว และ 11% สำหรับเครื่องซักผ้าขนาด 21 นิ้ว

[11] อ้างอิงจากการทดสอบภายในกับรุ่น WA80F/25 ขนาด 16 กิโลกรัม โดยใช้ผ้าที่เปื้อนสิ่งสกปรกจำลอง (EMPA 120) เปรียบเทียบกับเครื่องซักผ้าทั่วไปของซัมซุง ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปตามสภาพการใช้งานจริง

[12] อ้างอิงจากดัชนีความรุนแรงของการซักของรุ่น WA80F/25 ขนาด 16 กิโลกรัม เปรียบเทียบกับเครื่องซักผ้าทั่วไปของซัมซุง ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปตามสภาพการใช้งานจริง

[13] อ้างอิงจากการทดสอบภายใน รอบการซัก Normal สามารถเสร็จสิ้นได้ในเวลาเพียง 31 นาที โดยใช้ Super Speed ที่การตั้งค่าเริ่มต้นกับผ้า 3 กิโลกรัม เปรียบเทียบกับ 54 นาทีในเครื่องซักผ้าซัมซุงที่ไม่มี Super Speed ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปตามสภาพการใช้งานจริง รอบการซัก Super Speed ใช้เวลา 31 นาทีในรุ่น 25 นิ้วและ 24 นิ้ว และ 29 นาทีในรุ่น 21 นิ้ว”

[14] ณ เดือนเมษายน พ.ศ. 2567 การรับประกันชิ้นส่วน 20 ปี ใช้ได้กับมอเตอร์อินเวอร์เตอร์เท่านั้น

[15] ฟังก์ชันนี้ไม่รองรับในภูมิภาคอเมริกาเหนือ

[16] รองรับการซักผ้าไม่เกิน 3 กิโลกรัม (รุ่น 25 นิ้ว และ 24 นิ้ว) และ 2 กิโลกรัม (รุ่น 21 นิ้ว) แนะนำสำหรับผ้าสีไม่ตก และผ้าที่มีคราบสกปรกมาก หลีกเลี่ยงผ้าที่สีอาจซีดจางหรือตก

[17] อ้างอิงผลทดสอบ Intertek รุ่น WA80F/25 รอบซัก Hygiene Steam ขจัดแบคทีเรียบางชนิด 99.9% เช่น Staphylococcus aureus และ Escherichia coli ผลลัพธ์อาจแตกต่างกัน

[18] อ้างอิงการทดสอบภายใน อุณหภูมิที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับชนิดและสภาพคราบสกปรก

[19] อุณหภูมิที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับชนิดและสภาพคราบสกปรก

[20] สีที่วางจำหน่ายอาจแตกต่างกันในแต่ละประเทศ

พบปัญหาด้านการบริการ ติดต่อ samsung.com/th/support
สื่อมวลชนต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ nawanuch.s@samsung.com

แผนผังเว็บไซต์

กลับสู่ด้านบน