เกี่ยวกับบริษัท > กิจกรรมเพื่อสังคม
แหล่งข้อมูลสำหรับสื่อมวลชน > ข่าวประชาสัมพันธ์
ซัมซุงเผยกลยุทธ์ด้านสิ่งแวดล้อมใหม่ล่าสุด
– พร้อมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 ด้วยการตบเท้าเข้าร่วม RE100
– คิดค้นผลิตภัณฑ์ที่ประหยัดพลังงานเพื่อสนับสนุนให้ผู้บริโภครักษ์โลกไปด้วยกัน
– ลงทุนพัฒนาเทคโนโลยีนวัตกรรมใหม่ เช่น เทคโนโลยีดักจับคาร์บอนและบำบัดอากาศเพื่อโลกที่ดีขึ้นกว่าเดิม
ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ แถลงเปิดตัวกลยุทธ์ด้านสิ่งแวดล้อมฉบับใหม่ เป็นการผนึกกำลังครั้งยิ่งใหญ่ในการต่อสู้กับสภาวะ
การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ซึ่งรวมถึงพันธะสัญญาในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ และแผนที่จะนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ ตลอดจนการลงทุนในงบวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่ประหยัดพลังงาน ด้วยการใช้พลังงานน้ำหมุนเวียนให้มากขึ้นและการพัฒนาเทคโนโลยีดักจับคาร์บอน
โดยสาระสำคัญของพันธะสัญญานี้คือการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ (Scope 1 และ Scope 2) ในทุกด้านของการดำเนินงานที่เกี่ยวกับกลุ่มธุรกิจ Device eXperience (DX) ภายในปี 2030 และยังรวมถึงการดำเนินงานทั่วโลก ซึ่งรวมถึงกลุ่ม Device Solutions (DS) ให้ได้ภายในปี 2050 ทั้งนี้ กลุ่มธุรกิจ DX ครอบคลุมถึงอุปกรณ์อิเล็กโทรนิคส์เพื่อผู้บริโภค อาทิ Mobile eXperience หน้าจอแสดงผล อุปกรณ์ดิจิทัลต่างๆ เครือข่ายและอุปกรณ์ทางด้านสุขภาพและทางการแพทย์ ในขณะที่กลุ่มธุรกิจ DS ครอบคลุมงานด้าน หน่วยความจำ ระบบ LSI และ โรงผลิตชิ้นส่วนต่างๆ
นอกจากนี้ ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ยังได้เข้าร่วมกลุ่ม RE100 ซึ่งเป็นการรวมตัวระดับโลกของกลุ่มผู้ประกอบการด้านพลังงานเพื่อผลักดันให้มีการผลิตและใช้พลังงานหมุนเวียนแบบ 100% ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสืบสานปณิธาน ซัมซุงมีแผนที่จะเปลี่ยนการใช้พลังงานในทุกประเทศที่ได้เข้าไปดำเนินธุรกิจ ให้ใช้พลังงานหมุนเวียนทั้งสิ้นภายในห้าปี
โดยแผนงานทั้งหมดได้รับแรงบันดาลใจมาจากความตั้งมั่นของซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ที่จะเอาชนะการเปลี่ยนแปลงของสภาวะอากาศ ซึ่งส่งผลให้การดำเนินงานตลอดจนการลงทุนเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง โดยซัมซุงได้พัฒนาเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ๆ และนำมาปรับใช้เพื่อสานต่อความยั่งยืนของทุกคน
“ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศคือหนึ่งในสิ่งที่ท้าทายมวลมนุษยชาติที่สุด และผลของการนิ่งเฉยคือสิ่งที่เลวร้ายจนคาดไม่ถึง ซึ่งการแก้ไขปัญหาดังกล่าวคือหน้าที่ความรับผิดชอบของพวกเราทุกคน รวมถึงภาครัฐและภาคเอกชน” จอง ฮี ฮาน รองประธาน ซีอีโอ และผู้อำนวยการฝ่ายสร้างประสบการณ์ลูกค้า บริษัท ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าว “ซัมซุงกำลังตอบสนองกับสภาวะการเปลี่ยนแปลงของสภาวะอากาศนี้ด้วยแผนการดำเนินธุรกิจใหม่ๆ ซึ่งจะทำให้เราสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ปรับเปลี่ยนการทำงานโดยคำนึงถึงความยั่งยืน ตลอดจนพัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อโลกที่ดีขึ้นของเรา
นอกจากนี้ พันธะสัญญาด้านสิ่งแวดล้อมของซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ยังครอบคลุมไปถึงความพยายามขององค์กรในการนำทรัพยากรกลับมาใช้ใหม่ให้ครบวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ของสินค้านั้นๆ ตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบ จนถึงการรีไซเคิลและการกำจัด ทั้งนี้แผนธุรกิจนี้ยังรวมไปถึงการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและลดการใช้พลังงานในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค นอกจากนี้ ซัมซุงยังมีแผนที่จะพัฒนาเทคโนโลยีการดักจับคาร์บอนไดออกไซด์ตลอดจนใช้เทคโนโลยีเพื่อบำบัดสารอันตรายที่ล่องลอยอยู่ในอากาศอีกด้วย
เพื่อเป็นการแสดงถึงความตระหนักในความต้องการของนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อม ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์มีแผนที่จะลงทุนเป็นมูลค่ากว่า 7 ล้านล้านวอน ในการสร้างความเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมครั้งนี้ภายในปี 2030 ซึ่งรวมไปถึงการลดการปล่อยก๊าซ อนุรักษ์น้ำ ดูแลเรื่องการจัดเก็บขยะอิเลคโทรนิคส์ และลดมลพิษ โดยการลงทุนในครั้งนี้ยังไม่รวมถึงต้นทุนของแผนที่จะนำพลังงานหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่
ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ทั้งทางตรงและทางอ้อมภายในปี 2050
ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ มีแผนที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ทั้งทางตรงและทางอ้อมภายในปี 2050 และให้กลุ่มธุรกิจ DX บรรลุเป้าหมายภายในปี 2030 การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งทางตรงและทางอ้อมในครั้งนี้ ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์คาดว่าจะสามารถลดค่าคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าได้สูงถึง 17 ล้านตัน เมื่อเปรียบเทียบกับข้อมูลในปี 2021
ในการขับเคลื่อนความพยายามครั้งยิ่งใหญ่ครั้งนี้ ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์มีแผนที่จะลงทุนอย่างมหาศาลในนวัตกรรมเทคโนโลยีที่สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะพัฒนาเทคโนโลยีที่สามารถลดการปล่อยก๊าซต่างๆ ซึ่งเป็นผลมาจากการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ และติดตั้งจุดบำบัดต่างๆ ในไลน์การผลิตเซมิคอนดักเตอร์ภายในปี 2030 ยิ่งไปกว่านั้น ซัมซุง อิเลกโทรนิคส์ยังมีแผนที่จะขยายพื้นที่ที่จะนำความร้อนเหลือทิ้งกลับมาใช้ประโยชน์ และใช้พลังงานความร้อนด้วยไฟฟ้าแทนการใช้ความร้อนจากก๊าซธรรมชาติเหลวใน Boiler
นอกจากนี้ ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ยังได้ตบเท้าเข้าร่วม RE100 ด้วยความตั้งมั่นที่จะร่วมมือร่วมใจลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในทางอ้อม จากการใช้พลังงาน และนำพลังงานหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ในทุกโรงงานทั่วโลกภายในปี 2050 และเพื่อเป็นการตอบสนองต่อนโยบายดังกล่าว ซัมซุง อิเลกโทรนิคส์มีแผนที่จะให้ทุกกิจการที่ดำเนินการนอกประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งรวมถึงกลุ่มธุรกิจ DX ดำเนินธุรกิจโดยใช้พลังงานหมุนเวียนภายในระยะเวลาห้าปี โดยบริษัทมีแผนที่จะจัดหาพลังงานหมุนเวียนด้วยการลงนามในสัญญาข้อตกลงการซื้อขายไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนระหว่างภาครัฐและเอกชนที่เป็นผู้ผลิตไฟฟ้าขึ้นมาใช้เอง(PPA) รวมถึงการขอซื้อใบรับรองการผลิตพลังงานหมุนเวียน และการเข้าร่วมโปรแกรม Green Pricing
ซัมซุงมีเป้าหมายหลักในการเปลี่ยนมาใช้พลังงานหมุนเวียนทั้งสิ้นคือปี 2565 สำหรับธุรกิจในประเทศแถบเอเชียตะวันตกเฉียงใต้และเวียดนาม ภายในปี 2025 สำหรับประเทศแถบอเมริกากลางและอเมริกาใต้ ภายในปี 2027 สำหรับประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช และประเทศแอฟริกา ส่วนในประเทศสหรัฐอเมริกา จีน และยุโรป ซึ่งได้มีการดำเนินการไปบ้างแล้ว ซัมซุง อิเลคโทรนิสค์มีแผนที่จะเริ่มลงมือขยายการใช้พลังงานหมุนเวียนด้วยการลงนามในสัญญาข้อตกลงการซื้อขายไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนระหว่างภาครัฐและเอกชนที่เป็นผู้ผลิตไฟฟ้าขึ้นมาใช้เอง (PPA)
นับได้ว่า RE100 ในประเทศเกาหลีใต้เป็นพื้นที่ที่มีความท้าทายในการจัดหาพลังงานหมุนเวียนเป็นอย่างยิ่ง เพราะพื้นที่บริเวณดังกล่าวหนาแน่นไปด้วยฐานการผลิตของซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ แต่ในตลาดพลังงานหมุนเวียน การจัดซื้อในภาคธุรกิจเองก็เริ่มมีการเจริญเติบโตและมีไม่เพียงพอ นอกจากนี้ ความต้องการพลังงานไฟฟ้าในโรงผลิตชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์เองก็ยังมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นตามกำลังการผลิตของซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ที่ต้องการตอบสนองความต้องการทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ซัมซุงมีความตั้งมั่นที่จะใช้พลังงานหมุนเวียนให้ได้อย่างเต็มที่เพราะตระหนักถึงภาวะการเปลี่ยนแปลงทางสภาวะอากาศ ที่ต้องลงมือแก้ไขอย่างเร่งด่วน ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทยังมีแผนที่จะผนึกกำลังร่วมกับบรรดาผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในธุรกิจ ซึ่งรวมถึงผู้ผลิตรายอื่นในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี องค์กรนานาชาติ และ NGOs กลุ่มต่างๆ
ผลิตภัณฑ์ประหยัดพลังงานขั้นสุดและการใช้ทรัพยากรหมุนเวียน
ส่วนหนึ่งของการปฏิญาณตนในการดูแลรักษาโลกให้น่าอยู่ยิ่งขึ้นคือการผลิตสินค้าที่ประหยัดพลังงาน ในขณะเดียวกันก็ต้องทำให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่า ไซเคิลของสินค้าเหล่านี้ถูกผลิตผ่านแนวคิดของความยั่งยืนนับตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบ การกำจัด และการนำกลับมาใช้ใหม่
เซมิคอนตักเตอร์แบบประหยัดพลังงานพิเศษและเครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดพลังงาน
ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ มีแผนที่จะพัฒนาเทคโนโลยีประหยัดพลังงานเพื่อลดการใช้พลังงานในกลุ่มสินค้าอุปกรณ์อิเล็กโทรนิคส์เพื่อผู้บริโภค ซึ่งทั้งหมดนี้ รวมไปถึงการพัฒนาโมเมรีชิปรุ่นประหยัดพลังงานแบบใหม่ ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อให้ลดการใช้พลังงานของหน่วยความจำของสมาร์ทโฟนภายในปี 2025 ที่ใช้อย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเทียบกับโมเดลในปัจจุบัน
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะปรับใช้เทคโนโลยีประหยัดพลังงานในโมเดลหลักของกลุ่มสินค้าอุปกรณ์อิเล็กโทรนิคส์เพื่อผู้บริโภค 7 ชนิดด้วยกัน ซึ่งประกอบไปด้วย สมาร์ทโฟน ตู้เย็น เครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศ ทีวี มอนิเตอร์และพีซี โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ลดการใช้พลังงานลงโดยเฉลี่ย 30% ภายในปี 2030เมื่อเทียบกับสินค้าสเปคเดียวกันในปี 2019
ในอนาคตข้างหน้า ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์มีแผนที่จะกำหนดเป้าหมายระยะกลางถึงระยะยาวในการลดการปล่อยก๊าซใน Value Chain (Scope3) นอกจากนี้ ซัมซุงเองก็จะมุ่งเน้นสรรหากรรมวิธีใหม่ๆ ในการลดการปล่อยก๊าซในส่วนธุรกิจ Supply Chain การขนส่ง และการนำทรัพยาการกลับมาใช้ใหม่ รวมถึงการสนับสนุนคู่ค้าทางธุรกิจให้กำหนดเป้าหมายเพื่อลดการปล่อยก๊าซเช่นกัน
การใช้ทรัพยากรหมุนเวียนอย่างรู้คุณค่าตลอดวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ (Product Lifecycle)
ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ มีความตั้งมั่นที่จะทุ่มเทการพัฒนาทรัพยากรหมุนเวียนตลอดวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่กระบวนการจัดหาวัตถุดิบ จนถึงการจำกัดและนำกลับมาใช้ใหม่ เพื่อให้แน่ใจว่าทุกชิ้นส่วนที่ถูกใช้งานจะส่งผลเสียต่อธรรมชาติน้อยที่สุด
โดยทั้งหมดจะเริ่มต้นที่การประเมินทรัพยากรธรรมชาติที่ใช้ในขั้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ได้สร้างห้องปฏิบัติการระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy Lab) ขึ้นใหม่ เพื่อใช้วิจัยและทดสอบเทคโนโลยีการรีไซเคิลวัตถุและสกัดทรัพยากรจากขยะ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้ในระบบทรัพยากรหมุนเวียน นอกจากนี้ ซัมซุง
อิเลคโทรนิคส์ยังมีแผนที่จะวางระบบในการนำแร่ที่ได้จากการสกัดถ่านที่ไม่ใช้แล้ว ให้นำกลับมาใช้ได้ใหม่ภายในปี 2030
และในกรอบเวลาเดียวกัน บริษัทยังตั้งเป้าหมายที่จะใช้พลาสติกรีไซเคิลกว่า 50% ในการผลิตสินค้าที่ใช้พลาสติกของตนเอง และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 100% ในปี 2050 โดยในปัจจุบัน Galaxy Z Fold4 ได้เริ่มใช้พลาสติกรีไซเคิลบางส่วนจากอวนหาปลาที่ไม่ใช้แล้ว ซึ่งความสำเร็จนี้จะถูกถ่ายทอดไปสู่ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในระยะเวลาอันใกล้
สำหรับการตอกย้ำความยั่งยืนของสินค้า ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์มีแผนที่จะขยายส่วนงานในการเก็บขยะอิเล็กโทรนิคส์จาก 50 ประเทศในปัจจุบันเป็น 180 ประเทศภายในปี 2030 ด้วยแผนงานนี้ บริษัทคาดการณ์ว่าจะสามารถจัดเก็บขยะอิเล็กโทรนิคส์ได้กว่า 10 ล้านตันในระหว่างปี 2009 ถึง 2050 โดยเป้าหมายสูงสุดในอุตสาหกรรมคือรวมแล้วได้ 25 ล้านตันภายในปี 2050 นอกจากนี้ ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ยังมีแผนที่จะโปรโมทโมเดลการชุบชีวิตของเหลือให้มีคุณค่า โดยการจัดเก็บสมาร์ทโฟนที่ใช้แล้วและนำกลับมาใช้ใหม่ในจุดประสงค์ที่ต่างออกไป เช่น อุปกรณ์ IoT (Internet of Things)
มาตรการการอนุรักษ์น้ำและบำบัดมลพิษ
ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์มีแผนที่จะใช้ทรัพยากรน้ำอย่างคุ้มค่าที่สุด ในขณะที่กำลังการผลิตชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศเติบโตขึ้น ความต้องการในการดึงน้ำไว้ใช้ในผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศเกาหลีใต้ก็มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นสองเท่าตัวในปี 2030 เมื่อเทียบกับปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ซัมซุงมีความตั้งใจอย่างแท้จริงที่ใช้ทรัพยากรน้ำอย่างรู้คุณค่า จึงมีแผนว่าจะรักษาการดึงน้ำไว้ใช้ในการผลิตให้อยู่ในระดับเดียวกับปี 2021
สำหรับกลุ่มธุรกิจ DX บริษัทมีแผนที่จะโปรโมทการใช้น้ำหมุนเวียนโดยการปรับปรุงบ่อบำบัดและฟื้นฟูสภาพน้ำให้กลับมาปริมาณเท่าเดิมกับที่ใช้เมื่อถึงปี2030 ผ่านโปรเจกต์ต่างๆ อาทิ การพัฒนาคุณภาพน้ำ และการฟื้นฟูแหล่งน้ำ
ในขณะเดียวกัน ส่วนธุรกิจ DS ก็มีเป้าหมายที่จะใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ในการขจัดมลพิษในน้ำและอากาศที่ถูกปล่อยออกมาในระหว่างที่ผลิตชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์ โดยจะเป็นการบำบัดก่อนที่จะปล่อยสู่แหล่งที่มาเพื่อให้มั่นใจได้ว่าพวกเขาสร้างมลภาวะต่อโลกน้อยที่สุดในปี 2040
นอกจากนี้ ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ทั้งเครือ ยังมีแผนที่จะขอรับรอง Zero Waste to Landfill Certification ระดับแพลททินัมให้กับทุกธุรกิจทั่วโลก ซึ่งรับรองโดยองค์กรชั้นนำระดับโลกอย่าง Underwriters Laboratories (UL) ภายในปี 2025
ลงทุนและพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน
ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์มีความตั้งใจที่จะใช้เทคโนโลยีชั้นนำของตนเองต่อกรกับสภาวะเปลี่ยนแปลงของอากาศที่ท้าทาย โดยบริษัทจะเน้นไปที่การพัฒนาเทคโนโลยีดักจับคาร์บอนเพื่อลดปริมาณคาร์บอนลง ตลอดจนเทคโนโลยีการฟอกอากาศเพื่อลดปริมาณสสารต่างๆ ในอากาศ ซึ่งในปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดภาวะอากาศแปรปรวน
โดยซัมซุงได้จัดตั้ง The Carbon Capture Research Institute ขึ้นภายใน Samsung Advanced Institute of Technology (SAIT) ในเดือนกันยายน 2021ซึ่งนับได้ว่าเป็นการก่อตั้งครั้งแรกในธุรกิจการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ โดยพันธกิจหลักในการจัดตั้งครั้งนี้คือเพื่อพัฒนาและสร้างเทคโนโลยีที่สามารถดักจับคาร์บอน ซึ่งจะสามารถทำให้ผู้ผลิตสามารถกักเก็บคาร์บอนที่ได้จากกระบวนการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ และนำไปใช้ประโยชน์ต่อไปได้ ทั้งนี้ เทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาขึ้นมาจะเริ่มใช้กับไลน์การผลิตตั้งแต่ปี 2030 เป็นต้นไปและจะถูกใช้ในส่วนอื่น รวมถึงบริษัทคู่ค่าทางธุรกิจต่อไปในอนาคต
นอกจากนี้ บริษัทยังตั้งมั่นที่จะพัฒนาเทคโนโลยีการฟอกอากาศ รวมถึงระบบกรองอากาศแบบใหม่ ที่จะลดสสารและมีแพลนที่จะกับชุมชนต่างๆ ด้วยภายในปี 2030
ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ยังมีแผนที่จะเฟ้นหาและร่วมลงทุนกับบริษัทสตาร์ทอัพที่เน้นการพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยพร้อมที่จะรับฟังไอเดียใหม่ๆ และสนับสนุนโปรเจกต์ต่างๆ ที่สามารถรับมือกับปัญหาสภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงของโลกได้ ผ่าน C-Lab โครงการภายในเครือที่ไว้ดูแลสตาร์ทอัพและเร่งติดตามให้ธุรกิจเติบโต
การตรวจสอบและความโปร่งใส
เพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างสามารถตรวจสอบได้ ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์จะเปิดให้แผนการดำเนินงานของตนเอง และสามารถตรวจสอบโดยองค์กรที่เกี่ยวข้อง โดยกิจการจะถูกประเมินผ่านมาตรฐานการรับรอง Samsung Institute of EHS Strategy และตรวจสอบอีกครั้งโดย Carbon Reduction Verification Committee ที่จะรวมไปถึงผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกด้วย
โดยบริษัทยังได้จัดทำแผนกลยุทธ์สำหรับเป้าหมายทางด้านสิ่งแวดล้อมแต่ละอัน ซึ่งรวมไปถึงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์และระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน ซึ่งทั้งหมดนี้ ยังสามารถที่จะติดตามความคืบหน้าเพื่อให้มั่นใจได้ว่ามีการติดตามอย่างต่อเนื่องโดยสภาความยั่งยืน (Sustainability Council) ซึ่งนำทัพโดยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) และยังมีคณะกรรมการความยั่งยืน (Sustainability Committee) ซึ่งประกอบไปด้วยผู้บริหารต่างๆ อีกจำนวนหนึ่งอีกด้วย
พบปัญหาด้านการบริการ ติดต่อ samsung.com/th/support สื่อมวลชนต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ nawanuch.s@samsung.com