แหล่งข้อมูลสำหรับสื่อมวลชน > ข่าวประชาสัมพันธ์

สินค้า > เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน

ความปลอดภัยที่อยู่ในทุกการออกแบบ ไม่ใช่เพียงส่วนเสริม: ซัมซุงยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของเครื่องใช้ไฟฟ้า เพื่อมอบความอุ่นใจในทุกมุมบ้าน

31-10-2025
แบ่งปันข่าวสาร

 

เมื่อภัยคุกคามที่มองไม่เห็นยังคงเป็นสาเหตุของการละเมิดความปลอดภัยอยู่ต่อเนื่อง ผู้บริโภคจึงให้ความตระหนักในประเด็นนี้มากขึ้น ขณะเดียวกันกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องในแต่ละภูมิภาคก็ได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

 

ในปัจจุบันจะเห็นได้ชัดว่าความปลอดภัยไม่อาจถูกมองข้ามหรือจัดการในภายหลังได้อีกต่อไป เนื่องจากเทคโนโลยี AI  ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของผู้คน ส่งผลให้เกิดช่องทางที่มองไม่เห็นซึ่งอาจนำไปสู่ภัยคุกคามได้มากขึ้น ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ การสร้างระบบความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง และพัฒนาโครงสร้างที่สามารถแจ้งเตือนผู้ใช้เมื่อมีความเปลี่ยนแปลง จึงมีความสำคัญมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะสำหรับบ้านซึ่งถือเป็นพื้นที่ส่วนตัวและปลอดภัยที่สุดของเรา

 

ซัมซุงจึงมุ่งมั่นในการกำหนดนิยามใหม่ของ “ความปลอดภัยทางดิจิทัลให้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันอย่างแท้จริง และตามที่ได้ประกาศไว้ในงาน IFA 2025 ซัมซุงได้เดินหน้าสร้างสรรค์บ้านอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วย AI” ให้เป็นจริง โดยมีความปลอดภัยเป็นหนึ่งในเสาหลักสำคัญของแนวคิดดังกล่าว

 

โซลูชันด้านความปลอดภัยเฉพาะของซัมซุง อาทิ Knox Matrix1 และ Knox Vault2 ได้ถูกนำมาประยุกต์ใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านหลากหลายประเภท เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย และสร้างสภาพแวดล้อมภายในบ้านที่มั่นคงและปลอดภัยยิ่งขึ้นอย่างแท้จริง

 

ความปลอดภัยเป็นสิ่งที่ซัมซุงให้ความสำคัญมาโดยตลอด
แม้ปี 2024 จะเป็นครั้งแรกที่ซัมซุงได้แนะนำ Samsung Knox สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านอย่างเป็นทางการ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ซัมซุงได้พัฒนาเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยแบบฝังในอุปกรณ์มาอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่าทศวรรษ ย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 2011 ขณะที่ซัมซุงเริ่มวิจัยและพัฒนาเครื่องใช้ไฟฟ้าที่สามารถทำหน้าที่เป็นศูนย์ควบคุมภายในบ้านในระยะเริ่มต้น ทีมวิจัยภายในได้เริ่มศึกษาวิธีการป้องกันการโจรกรรมข้อมูลตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

 

ตามคำกล่าวของ คุณ Changhoon Lee, Head of Security Lab for Digital Appliances Business at Samsung Electronics, การพัฒนาอย่างจริงจังเริ่มต้นขึ้นพร้อมกับการเปิดตัวตู้เย็น Family Hub ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผสานบริการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การจัดเก็บตารางนัดหมายบนปฏิทิน รวมถึงการเชื่อมโยงกับข้อมูลบัญชีซัมซุง นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อและควบคุมการทำงานของตู้เย็นได้จากระยะไกลผ่านแอป SmartThings3 อีกด้วย

 

คุณ Changhoon Lee กล่าวว่า “ในช่วงเวลานั้น เทคโนโลยี IoT ยังถือเป็นเรื่องใหม่ และผู้คนยังมีความเข้าใจเกี่ยวกับความท้าทายด้านความปลอดภัยของอุปกรณ์ IoT ค่อนข้างจำกัด การเริ่มต้นพัฒนาไม่ใช่เรื่องง่าย เราจำเป็นต้องพิจารณาว่ามาตรฐานและโมเดลด้านความปลอดภัยใดจึงจะเหมาะสมกับเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ซึ่งต้องอาศัยการลงทุนด้านเทคโนโลยีอย่างมากในการดำเนินการ

 

ในช่วงเวลาเดียวกัน ได้มีมัลแวร์ประเภทหนึ่งที่มุ่งโจมตีอุปกรณ์ IoT ปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรก การเกิดขึ้นของภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่มุ่งเป้าไปยังอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาใกล้เคียงกับการเปิดตัวตู้เย็น IoT ของซัมซุง ได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่ผลักดันให้เขาเร่งเดินหน้าการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยอย่างจริงจังมากยิ่งขึ้น

 

ขอบเขตความต้องการด้านความปลอดภัยกำลังขยายตัวมากขึ้น
แม้การเปิดตัว Family Hub จะช่วยสร้างความตระหนักถึงความจำเป็นด้านความปลอดภัยของเครื่องใช้ไฟฟ้าแล้ว แต่การขยายตัวของ SmartThings กลับเพิ่มความท้าทายทางเทคนิคให้ซับซ้อนและเข้มข้นยิ่งขึ้น

 

คุณ Changhoon Lee กล่าวต่อว่า “มีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณามากขึ้นจริง ๆ สำหรับ SmartThings ฟังก์ชันบางอย่างอาจเกี่ยวข้องเพียงการแลกเปลี่ยนข้อมูลพื้นฐาน ขณะที่บางฟังก์ชันอาจจัดการกับข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดมากขึ้น ตัวอย่างเช่น ฟีเจอร์ Map View4 ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถมองเห็นอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อหลายตัวได้พร้อมกัน แต่สิ่งนี้ก็หมายความว่าอุปกรณ์เหล่านั้นจำเป็นต้องแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกัน ส่งผลให้จำนวนและความซับซ้อนของกรณีการใช้งานที่เป็นไปได้เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย

 

สิ่งนี้ทำให้แนวทางความปลอดภัยเปลี่ยนจากการปกป้องอุปกรณ์แต่ละชิ้น มาเป็นการสร้างความมั่นคงด้านความปลอดภัยระหว่างอุปกรณ์ทั้งหมดในสภาพแวดล้อมที่เชื่อมต่อกัน ขณะเดียวกัน ในอนาคต เมื่อเทคโนโลยีที่ผสาน AI ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง กรณีการใช้งานและภัยคุกคามใหม่ ๆ ก็จะเกิดขึ้นมากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้น การกำหนดเกณฑ์ด้านความปลอดภัยที่ชัดเจนจึงมีความสำคัญมากยิ่งขึ้น เพื่อชี้แนวทางว่าความปลอดภัยควรถูกนำไปประยุกต์ใช้อย่างไร และต้องสะท้อนอยู่ในการออกแบบผลิตภัณฑ์ตั้งแต่เริ่มแรก

 

การพัฒนาของฟีเจอร์ในผลิตภัณฑ์ยังเป็นตัวเร่งให้เทคโนโลยีด้านความปลอดภัยใหม่ ๆ ถูกนำมาใช้มากขึ้น เมื่ออุปกรณ์มีความก้าวหน้ามากขึ้นและความสามารถของพวกมันขยายตัว การรักษาความปลอดภัยจึงจำเป็นต้องพัฒนาตามไปเพื่อรองรับความต้องการใหม่เหล่านั้น

 

อย่างเช่นหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ที่ในอดีตกล้องถูกใช้เพื่อช่วยนำทางเท่านั้น แต่รุ่นปัจจุบันได้เพิ่มฟีเจอร์ด้านการตรวจสอบ ซึ่งทำให้ระบบรักษาความปลอดภัยด้วยวิดีโอเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย5 เมื่อฟีเจอร์พัฒนา ข้อมูลที่ต้องปกป้องก็มีปริมาณและความละเอียดอ่อนไหวมากขึ้นตามไปด้วย รวมถึงความซับซ้อนของเทคโนโลยีที่ต้องใช้ก็เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน

 

 

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ซัมซุงได้พัฒนาเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นในช่วงเวลาที่ความปลอดภัยกลายเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ซัมซุงจึงสามารถนำเสนอแนวทางด้านความปลอดภัยได้อย่างมั่นใจและชัดเจนอยู่ในจุดศูนย์กลางของทุกการออกแบบ

 

นอกจากนี้ ซัมซุงยังสามารถสร้างความก้าวหน้าอย่างมีนัยสำคัญด้านความปลอดภัยผ่านธุรกิจมือถือ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในหมวดผลิตภัณฑ์ที่ใกล้ชิดและมีความอ่อนไหวต่อความปลอดภัยมากที่สุด ด้วยการนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาประยุกต์ใช้ พร้อมกับพอร์ตโฟลิโอกว้างขวางตั้งแต่ทีวีจนถึงอุปกรณ์มือถือ บริษัทจึงสามารถขยายแนวทางนวัตกรรมด้านความปลอดภัยไปยังทุกหน่วยธุรกิจ สร้างกรอบการปกป้องที่แข็งแกร่งให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านได้อย่างมั่นคง

 

ความสามารถที่ผ่านการทดสอบอย่างรอบด้านและได้รับการยืนยันแล้ว
คุณ Changhoon Lee กล่าว “เสน่ห์ของบ้านอัจฉริยะอยู่ที่ความสามารถของเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ปรับตัวเข้ากับผู้ใช้งานและง่ายต่อการควบคุม แต่หากข้อมูลส่วนบุคคลของคุณมีความเสี่ยงที่จะรั่วไหล คุณก็ไม่สามารถรู้สึกปลอดภัยได้เลย ซังซุงได้ลงทุนอย่างต่อเนื่องในด้านนี้มากว่าทศวรรษ และผมเชื่อว่านั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้องค์กรชั้นนำและหน่วยงานรัฐบาลต่างให้การยอมรับความพยายามของซัมซุง

 

ความแข็งแกร่งของระบบความปลอดภัยของซัมซุงยังได้รับการยืนยันผ่านการรับรองจากหน่วยงานภายนอกหลายแห่ง ตัวอย่างสำคัญคือหลายผลิตภัณฑ์ได้รับการรับรองในระดับ “Diamond” ภายใต้โปรแกรม UL Solutions Marketing Claim Verification IoT Security Rating ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุด โดยผลิตภัณฑ์ที่จะผ่านการรับรองนี้ต้องเป็นไปตามเกณฑ์รายละเอียด 56 ข้อ ครอบคลุม 33 รายการประเมินใน 6 ด้านหลัก

 

เกณฑ์ดังกล่าวครอบคลุมหลายด้าน อาทิ การอัปเดตซอฟต์แวร์ การเข้ารหัสข้อมูล และการบริหารจัดการระบบ การประเมินนี้มีความรอบคอบและออกแบบมาเพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์สอดคล้องกับมาตรฐานความปลอดภัยระหว่างประเทศต่าง ๆ จึงถือเป็นหนึ่งในการรับรองที่ครอบคลุมและครบถ้วนมากที่สุด

 

 

ซัมซุงแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งอย่างชัดเจน คือ การปกป้องความเป็นส่วนตัว โดย Bespoke Jet Bot Combo AI หุ่นยนต์ดูดฝุ่นและถูพื้นของบริษัท ได้รับการรับรอง “Privacy by Design” จาก Korea Internet & Security Agency (KISA) ซึ่งถือเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ชิ้นแรกที่ได้รับการรับรองดังกล่าว

 

การรับรองนี้กำหนดให้ต้องคำนึงถึงการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลตลอดทั้งวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์หรือบริการ ตั้งแต่ขั้นตอนการวางแผน การผลิต ไปจนถึงการกำจัด รวมถึงต้องผ่านเกณฑ์ประเมินรายละเอียด 71 ข้อ ครอบคลุม 4 ด้านสำคัญ

 

จำนวนเกณฑ์การประเมิน แม้ว่าบางข้ออาจมีความซ้ำซ้อนกันบ้าง แต่รายการต่าง ๆ มีความหลากหลาย และข้อกำหนดจะแตกต่างกันเล็กน้อยในแต่ละการรับรอง ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่ผลิตภัณฑ์หนึ่งจะสามารถตอบสนองมาตรฐานหลายชุดได้พร้อมกัน โดยหุ่นยนต์ดูดฝุ่นของซัมซุงปฏิบัติตามมาตรฐาน IoT หลากหลายอยู่แล้ว จึงทำให้สามารถตอบสนองข้อกำหนดด้านความปลอดภัยได้อย่างครบถ้วน ซึ่งยังมีบทบาทสำคัญในการปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้อีกด้วย

 

เตรียมความพร้อมให้เครื่องใช้ไฟฟ้า Bespoke AI รับมือกับภัยคุกคามในอนาคต
ในงานประชุมระดับโลกครั้งล่าสุด ซัมซุงได้พูดถึงทิศทางอนาคตด้านความปลอดภัย พร้อมแนะนำ Post-Quantum Cryptography (PQC)6 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการเข้ารหัสข้อมูลใหม่และยังไม่เป็นที่แพร่หลาย การป้องกันประเภทนี้มีความจำเป็นเพิ่มขึ้น เนื่องจากเมื่อเทคโนโลยีควอนตัมคอมพิวเตอร์พัฒนาขึ้น อัลกอริธึมการเข้ารหัสปัจจุบันอาจเสี่ยงต่อการถูกถอดรหัสในอนาคต เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้น ซัมซุงจึงได้นำ PQC มาประยุกต์ใช้ภายใน Knox Matrix สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน

 

 

แม้ว่าอาจจะยังมีการตั้งคำถามว่าการให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเชิงควอนตัมในเวลานี้เร็วเกินไปหรือไม่ แต่ซัมซุงมองไปยังระยะยาวเพื่อให้มั่นใจว่าการปกป้องลูกค้าจะมีอยู่ตลอดเวลา เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านมักถูกใช้งานนานประมาณ 10 ปีหลังจากการซื้อ เมื่อพิจารณาวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์นี้ ซัมซุงจึงเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องเตรียมพร้อมตั้งแต่ตอนนี้สำหรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งเป็นแนวคิดที่ขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ของบริษัทต่อบ้านอัจฉริยะ

 

หากรอจนกว่าข้อมูลจะรั่วไหลแล้ว มักจะสายเกินไป ภารกิจของเราคือการพัฒนาเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้บริโภครู้สึกมั่นใจและปลอดภัยทุกครั้งที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของเราคุณ Changhoon Lee กล่าวทิ้งท้าย

 

เชิงอรรถ

[1] ปัจจุบันใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่รองรับ Wi-Fi ทุกเครื่องที่เปิดตัวในปี 2025 และวางแผนขยายไปยังรุ่นที่เลือกสรรซึ่งเปิดตัวในปี 2024 ตั้งแต่เดือนกันยายน 2025 เป็นต้นไป

[2] ปัจจุบันใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีหน้าจอ AI Home ขนาด 7 นิ้ว หรือ 9 นิ้ว และหน้าจอ AI Family Hub™ ที่เปิดตัวในปี 2025 ยกเว้น Bespoke AI Oven

[3] ใช้งานได้บนอุปกรณ์ Android และ iOS จำเป็นต้องเชื่อมต่อ Wi-Fi และมีบัญชี Samsung

[4] ใช้งานได้บนอุปกรณ์ Android และ iOS จำเป็นต้องเชื่อมต่อ Wi-Fi และมีบัญชี Samsung

[5] ใช้งานได้บนอุปกรณ์ซัมซุงที่รัน Android 11 ขึ้นไป และอาจไม่สามารถใช้งานได้บนอุปกรณ์บางรุ่น

[6] PQC ถูกนำไปใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีหน้าจอ AI Home ขนาด 7 นิ้ว หรือ 9 นิ้ว และหน้าจอ AI Family Hub™ ที่เปิดตัวในปี 2025 (ยกเว้น Bespoke AI Oven)

พบปัญหาด้านการบริการ ติดต่อ samsung.com/th/support
สื่อมวลชนต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ nawanuch.s@samsung.com

แผนผังเว็บไซต์

กลับสู่ด้านบน