ซัมซุง ยกระดับการซักผ้าด้วย Bespoke AI เปลี่ยนงานบ้านทุกวันให้สะดวก เร็ว ง่ายกว่าที่เคย

ในยุคที่ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI กำลังก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว เราต่างก็รับรู้ถึงศักยภาพอันมหาศาลที่เทคโนโลยีนี้จะช่วยยกระดับชีวิตของเราได้ แต่บางครั้งก็อาจยังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มนำประโยชน์เหล่านั้นมาใช้ในชีวิตประจำวันอย่างไรให้เกิดผลจริง ซัมซุงจึงนำ AI มาผสานในเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เพื่อมอบทางออกที่ใช้งานได้จริงกับปัญหาที่พบในชีวิตประจำวัน พร้อมทั้งสร้างประสบการณ์ที่ยืดหยุ่นและสะดวกสบายยิ่งขึ้นให้กับผู้ใช้

แล้วในด้านไหนและอย่างไร? การเปลี่ยนแปลงกระบวนการซักผ้าแบบเดิม ๆ คือหนึ่งในตัวอย่างที่ชัดเจน เมื่อการซักผ้ากลายเป็นเรื่องยุ่งยาก ซัมซุงก็พร้อมช่วย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องซักผ้าถังหมุนอัจฉริยะที่ใช้ AI ในการปรับปรุงประสบการณ์ซักผ้าอย่างชาญฉลาด หรือเครื่องซักผ้าฝาบนที่สามารถซักผ้าหลากหลายชนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยโปรแกรมซักที่เสริมด้วย AI

Bespoke AI Washer อัปเกรดรอบ AI ให้ดียิ่งขึ้น
การเลือกโปรแกรมซักผ้าให้เหมาะสม และการกำหนดปริมาณผงซักฟอกให้ถูกต้องในแต่ละครั้ง อาจเป็นเรื่องยุ่งยากและไม่สะดวก โดยเฉพาะกับครอบครัวขนาดใหญ่ที่ต้องซักผ้าหลายรอบในแต่ละสัปดาห์ เครื่องซักผ้าฝาหน้า Bespoke AI รุ่นใหม่ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดความยุ่งยากเหล่านี้ให้หมดไป ซัมซุงได้พัฒนาและนำโปรแกรมซักผ้าที่เสริมศักยภาพด้วย AI มาใช้ในซีรีส์ Bespoke AI Laundry เพื่อช่วยให้กระบวนการซักผ้าง่ายและสะดวกขึ้นสำหรับผู้ใช้ พร้อมเปิดตัวระบบ AI Wash+ โปรแกรมซักผ้าที่ได้รับการอัปเกรดด้วยฐานข้อมูลการเรียนรู้ที่มากขึ้น มาพร้อมกับเครื่องซักผ้าฝาหน้า Bespoke AI Washer รุ่นใหม่ล่าสุด

เมื่อเลือกโปรแกรม AI Wash+ เครื่องซักผ้าจะปรับปริมาณผงซักฟอก ฟอง ระยะเวลาซัก อุณหภูมิน้ำ และความเร็วการปั่น โดยตรวจจับจากน้ำหนัก ความสกปรก และชนิดของผ้า^[1] จากเดิมที่รองรับเพียง 3 ประเภทผ้า คือ ผ้าบอบบาง ผ้าปกติ และผ้าเช็ดตัว แต่ในโปรแกรมรุ่นใหม่ที่ได้รับอัปเกรด สามารถตรวจจับชนิดผ้ากลางแจ้งและผ้ายีนส์ได้ด้วย ตัวอย่างเช่น สำหรับผ้ากลางแจ้งที่ต้องการคุณสมบัติกันน้ำ เมื่อเครื่องตรวจพบผ้าประเภทนี้ โปรแกรมจะซักอย่างอ่อนโยนเพื่อลดแรงเสียดสี ช่วยรักษาคุณสมบัติกันน้ำของผ้าไว้ได้ ส่วนผ้ายีนส์จะถูกซักด้วยอุณหภูมิน้ำและความเร็วมอเตอร์ที่ลดลง เพื่อป้องกันสีตกหรือการซีดจาง

นอกจากนี้ โปรแกรม AI Wash+ ยังวัดระดับความขุ่นของน้ำอย่างต่อเนื่องตลอดกระบวนการซัก เพื่อที่จะเติมผงซักฟอกเพิ่มหรือปรับระยะเวลาซักตามความจำเป็น ทำให้มั่นใจได้ว่าการทำความสะอาดจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด รวมทั้งเพื่อให้การใช้งานสะดวกขึ้น โปรแกรม AI Wash+ และตัวเลือกโปรแกรมซักผ้าอื่น ๆ ยังสามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดายผ่าน AI Home^[2] ซึ่งเป็นหน้าจอ LCD ขนาด 7 นิ้วที่ติดตั้งอยู่ด้านหน้าของเครื่องซักผ้า

Bespoke AI Top Load Washer ยกระดับฝาบนแบบเดิมให้ล้ำด้วย AI
เครื่องซักผ้าฝาบนมักถูกมองว่าเป็นรูปแบบคลาสสิกหรือแบบดั้งเดิม เมื่อเทียบกับเครื่องซักผ้าฝาหน้า แต่ตอนนี้ซัมซุงได้ท้าทายความคิดนี้ด้วยการนำฟีเจอร์ AI มาผสมผสาน เพื่อยกระดับประสบการณ์ซักผ้าสำหรับผู้ที่ชื่นชอบดีไซน์ฝาบนให้ดียิ่งขึ้น เครื่องซักผ้าฝาบน Bespoke AI เป็นเครื่องซักผ้าฝาบนรุ่นแรกของซัมซุงที่มาพร้อมฟีเจอร์ AI ที่ใช้งานง่ายถึง 3 ฟีเจอร์ ได้แก่ AI Wash^[3], AI Energy Mode^[4] และ AI VRT+^[5] เซนเซอร์ในตัวทำให้เครื่องซักผ้าฝาบน Bespoke AI สามารถปรับการตั้งค่าโปรแกรมซักให้เหมาะสมกับแต่ละรอบซักโดยใช้โหมด AI Wash และยังช่วยลดการใช้พลังงาน^[6] เมื่อเปิดใช้งาน AI Energy Mode ผ่านแอป SmartThings Energy อีกด้วย ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ฟีเจอร์เด่นอีกอย่างหนึ่งคือ AI VRT+ ซึ่ง VRT ย่อมาจาก Vibration Reduction Technology เทคโนโลยีนี้จะช่วยลดการสั่นสะเทือนของโครงเครื่องซักผ้าอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดเสียงรบกวนขณะเครื่องทำงาน นื่องจากวัตถุทุกชิ้นมี “ความถี่ธรรมชาติ” ซึ่งหมายถึงความถี่ที่วัตถุจะสั่นเองตามธรรมชาติ ถ้ามีแรงจากภายนอกที่มีความถี่เดียวกันมากระทำซ้ำ ๆ วัตถุนั้นจะสั่นแรงมากขึ้น จนเกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า
“เรโซแนนซ์” (resonance)

สำหรับเครื่องซักผ้า ตอนที่เครื่องหมุนในรอบปั่น ถ้าการสั่นสะเทือนมีความถี่ตรงกับความถี่ธรรมชาติของตัวเครื่อง จะทำให้เครื่องสั่นแรงและเสียงดังขึ้นมาก จนเกิดปรากฏการณ์เรโซแนนซ์ขึ้น หลายคนอาจคิดว่าแค่ออกแบบรอบปั่นให้เลี่ยงความถี่ธรรมชาติของโครงเครื่องซักผ้าก็จะแก้ปัญหาได้แล้ว แต่ความท้าทายคือ ความถี่ธรรมชาติของโครงเครื่องซักผ้าอาจเปลี่ยนไปได้ตามสภาพของพื้นที่ที่เครื่องตั้งอยู่ เพื่อแก้ไขปัญหานี้ AI VRT+ จะตรวจจับสภาพพื้น^[7] เมื่อเริ่มรอบปั่น จากนั้นจะวิเคราะห์และจัดประเภทพื้นด้วยอัลกอริทึม AI และปรับความเร็วรอบปั่นให้เลี่ยงความถี่ธรรมชาติที่คาดว่าจะเกิดขึ้นกับสภาพพื้นนั้น ส่งผลให้ป้องกันปรากฏการณ์เรโซแนนซ์ได้ และลดการสั่นของโครงเครื่อง ทำให้ซักผ้าได้อย่างเงียบสงบมากขึ้น

Bespoke AI Combo ซักและอบผ้าอย่างชาญฉลาดในเครื่องเดียว
เครื่องซักผ้าฝาหน้า Bespoke AI Washer ที่มาพร้อม AI Wash+ และเครื่องซักผ้าฝาบน Bespoke AI Top Load Washer ต่างเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ช่วยซักผ้ายุคใหม่ แต่สำหรับผู้ที่ต้องการซักและอบผ้าในเครื่องเดียว พร้อมรองรับการใช้งานฟีเจอร์อัจฉริยะครบครัน เครื่องซักผ้าอบผ้า Bespoke AI Laundry Combo ถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด เครื่องซักและอบผ้า Bespoke AI Laundry Combo ได้เปิดตัวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนียเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ชูจุดเด่นผสานเครื่องซักผ้าและเครื่องอบไว้ในเครื่องเดียว ช่วยแก้ปัญหาความไม่สะดวกจากการย้ายผ้าหลังซัก โดยเครื่องรุ่นนี้มียอดขายสะสมทะลุ 100,000 เครื่องภายในหนึ่งปี และในตลาดเกาหลีซึ่งเป็นที่แรกที่เปิดตัว ยังได้รับการยอมรับในด้านความสะดวกสบาย จนได้รับรางวัลรวมกว่า 21 รางวัลในหลายภูมิภาคทั่วโลก^[8]

Bespoke AI Laundry Combo เป็นผลิตภัณฑ์แรกของซัมซุงที่ผสานระบบ AI Home เข้าไว้ด้วยกัน โดยมีหน้าจอขนาดกว้างสำหรับแสดงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เช่น รายละเอียดโปรแกรมซัก ปริมาณผงซักฟอกที่เหลือ และการใช้พลังงาน นอกจากนี้ ยังใช้การเรียนรู้ของเครื่อง (machine learning) เพื่อจดจำพฤติกรรมการใช้งาน และสามารถแนะนำโปรแกรมซักที่เหมาะสมตามช่วงเวลาและฤดูกาลต่าง ๆ^[9] รวมทั้งเมื่อโปรแกรมเสร็จสิ้น เครื่องจะแสดงรายงานการใช้พลังงานและน้ำได้บนจอ LCD ขนาด 7 นิ้วหรือแอป SmartThings^[10]

นอกจากนี้ ยังมีโปรแกรม AI Wash & Dry^[11] ที่เป็นจุดเด่นเฉพาะที่มีแค่ในเครื่องซักผ้าอบผ้าแบบคอมโบเท่านั้น  โดยโปรแกรมนี้จะเริ่มต้นด้วยการตรวจจับน้ำหนักผ้า จากนั้นจึงจ่ายปริมาณน้ำและผงซักฟอกที่เหมาะสม อีกทั้งยังตรวจสอบชนิดของเนื้อผ้าและระดับความสกปรกระหว่างรอบซัก^[12] เพื่อปรับระยะเวลาซักและปริมาณผงซักฟอกให้เหมาะสมอย่างแม่นยำเมื่อจบรอบซักแล้ว เครื่องจะเริ่มรอบอบผ้าให้อัตโนมัติโดยไม่ต้องสั่งงานเพิ่ม โปรแกรม AI Wash & Dry จะปรับกระบวนการอบผ้าให้เหมาะสมตามน้ำหนักและชนิดผ้าที่ตรวจจับได้ก่อนหน้า เพื่อให้ได้ผลลัพธ์การซักและอบที่ดีที่สุด ทำให้ AI Wash & Dry สามารถมอบประสบการณ์ซักผ้าที่ครบครัน มีประสิทธิภาพ และตรงตามความต้องการเฉพาะบุคคล ดังนั้น สำหรับใครที่กำลังมองหาวิธีให้ชีวิตประจำวันให้สะดวกขึ้น แค่ลองเริ่มต้นจากเรื่องใกล้ตัวอย่างการซักผ้า แทนที่จะเสียเวลาเลือกโปรแกรมซักเองในทุกครั้ง แล้วลองเปลี่ยนมาให้เครื่องซักผ้า Bespoke AI จัดการให้ทั้งหมด ทั้งง่าย ทั้งแม่นยำ และตอบโจทย์ได้เหมือนมีมือโปรมาดูแลให้

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องซักผ้า Bespoke AI สามารถดูได้ที่ Samsung.com

###

เชิงอรรถ

^[1] อ้างอิงจากอัลกอริทึมขั้นสูงที่สร้างด้วย AI อาจไม่สามารถตรวจจับผ้าบางชนิดหรือระบุผ้าได้แม่นยำเมื่อมีการซักผ้าที่ผสมหลายประเภทกัน เพื่อป้องกันการสึกหรอ ควรซักผ้าที่เหมือนกันรวมกัน

^[2] AI Home หมายถึงหน้าจอ LCD ขนาด 7 นิ้ว หรือ 9 นิ้วบนผลิตภัณฑ์ ไม่ได้หมายความว่าบริการทั้งหมดใน AI Home ใช้ AI หรือสร้างข้อมูลผลลัพธ์ด้วย AI ฟังก์ชันบางอย่างใน AI Home ใช้อัลกอริทึมพื้นฐาน AI ซึ่งสามารถอัปเดตเพื่อปรับปรุงความแม่นยำได้ อัลกอริทึมเหล่านี้อาจให้ข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์หรือผิดพลาดได้ ผู้ใช้ต้องมีบัญชีซัมซุงเพื่อเข้าถึง AI Home ซึ่งเป็นบริการเครือข่ายที่รวมแอปและฟีเจอร์สมาร์ทอื่น ๆ ที่มีในอุปกรณ์ของผู้ใช้

^[3] การตรวจจับชนิดผ้าใช้ AI ในการตรวจจับ 3 ประเภทผ้า (ปกติ, บอบบาง, ผ้าเช็ดตัว) สำหรับน้ำหนักผ้าสูงสุด 3 กิโลกรัม ผ้าผสมอาจลดความแม่นยำในการตรวจจับ ผลลัพธ์จริงอาจแตกต่างตามการใช้งานแต่ละบุคคล เพื่อป้องกันการสึกหรอ ควรซักผ้าที่เหมือนกันรวมกัน

^[4] ใช้งานได้บนอุปกรณ์ Android และ iOS ต้องเชื่อมต่อ Wi-Fi และมีบัญชีซัมซุง

^[5] ต้องเชื่อมต่อ Wi-Fi หากไม่มี Wi-Fi จะใช้ชุดอัลกอริทึมภายในเครื่องซักผ้าแทน

^[6] ใช้ได้กับโปรแกรมซักปกติ, AI Wash, Super Clean, Jeans, Aqua Preserve, Towels และ Clean Wash ทดสอบโดยซัมซุงบนรุ่น WA80F/25 กับน้ำหนักผ้า 5 กิโลกรัม ใช้โปรแกรม AI Wash และระดับน้ำ 6 ผลลัพธ์ได้รับจากและตีความโดย Intertek

^[7] ต้องติดตั้งแยกต่างหากและปรับระดับพื้นให้เรียบเพื่อการทำงานที่แม่นยำ

^[8] รางวัลที่ได้รับ ได้แก่ รางวัลชนะเลิศ iF Design Award (2024, 2025), เข้ารอบสุดท้าย IDEA Design Award (2024), รางวัลทองแดง Good Design Award โดย Korea Institute of Design Promotion (2024), รางวัล Korea Innovation Frontier Award โดย Korean Standards Association (2024), รางวัล Honoree ที่ CES Innovation Awards (2024), รางวัล Ergonomic Design Award โดย Ergonomics Society of Korea (2024), Korea Green Product of the Year โดย Korea Green Purchasing Network (2024), รางวัล Jang Young-Shil Award โดยกระทรวงวิทยาศาสตร์และ ICT เกาหลี (2024), รางวัล Korea Electronics Show Innovation Award (2024), อันดับ 1 INNO STAR และ GREEN STAR โดย Korea Management Registrar Inc. (2024, 2025), อันดับ 1 การบริการ Home Appliance A/S ใน KS-SQI และ KSQI โดย Korean Standards Association และ Korea Management Association Consultants ตามลำดับ (2024), อันดับ 1 ในหมวดเครื่องซักผ้าอบผ้า KS-QEI โดย Korean Standards Association (2024), รางวัล Korea Brand Hall of Fame โดย Institute for Industrial Policy Studies (2025), รางวัล Canstar Blue Most Innovative Award ในออสเตรเลีย (2025), และอันดับ 1 ในหมวดเครื่องซักผ้าอบผ้าโดย Consumer Reports ในสหรัฐอเมริกา (2024, 2025)

^[9] ข้อความแนะนำโปรแกรมซักจะแสดงบนแผงควบคุมหรือสมาร์ตโฟนผ่านแอป SmartThings

^[10] แอป SmartThings ใช้งานได้บนอุปกรณ์ Android และ iOS ต้องเชื่อมต่อ Wi-Fi และมีบัญชีซัมซุง

^[11] ความสามารถในการตรวจจับและรับรู้ขึ้นอยู่กับโมเดลเรียนรู้ลึก (deep learning) ที่ฝึกด้วยชุดข้อมูลที่กำหนดไว้ล่วงหน้า อาจให้ผลลัพธ์ที่ไม่แม่นยำหรือผิดพลาดได้ ชุดข้อมูลใหม่อาจถูกเพิ่มเข้าไปในโมเดลเพื่อปรับปรุงความแม่นยำเป็นครั้งคราว

^[12] เซนเซอร์วัดความขุ่นทำงานได้ทุกน้ำหนักผ้า ส่วนการตรวจจับชนิดผ้าทำงานได้กับน้ำหนักผ้า 8 ปอนด์หรือน้อยกว่า ผลลัพธ์จริงอาจแตกต่างตามการใช้งานแต่ละบุคคล เพื่อป้องกันการสึกหรอ ควรซักผ้าที่เหมือนกันรวมกัน