สินค้า > สมาร์ทโฟน
ฟีเจอร์เด็ดที่ทำได้มากกว่าตามหาโทรศัพท์หาย! SmartThings Find โตขึ้นอย่างรวดเร็วและค้นหาอุปกรณ์ได้ด้วยการใช้ Nodes กว่า 300 ล้านตัว
ฟีเจอร์นี้ได้รับความนิยมและมีการลงทะเบียนเพื่อเป็นผู้ช่วยกว่า 100 ล้าน Nodes ในระยะเวลาไม่ถึง 1 ปี
ซัมซุงประกาศให้ “SmartThings Find” เป็นฟีเจอร์ที่มีคนลงทะเบียนและสมัครเป็น “Find Nodes” หรือ “ผู้ช่วย” แล้วกว่า 300 ล้าน Nodes ซึ่งนี่ถือเป็นก้าวสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงการขยายตัวอย่างรวดเร็วและมั่นคงสำหรับ SmartThings Find ซึ่งลงทะเบียน Nodes เพิ่มขึ้น 1.5 เท่าในระยะเวลาเพียง 10 เดือนนับจากเดือนกรกฎาคมปี 2022 ซึ่งลงทะเบียนเพิ่มขึ้นถึง 100ล้าน Nodes นอกจากนี้อัตราการเติบโตข้างต้นยังสะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นของระบบการระบุตำแหน่ง โดยอุปกรณ์ที่สมัครใจเป็นผู้ช่วยนั้นสามารถช่วยให้กาแล็คซี่เครื่องอื่นๆ ค้นหาทั้งของตนเองรวมถึงของผู้อื่นๆ ได้หรือหากมีอุปกรณ์ที่สมัครเป็นผู้ช่วยมากขึ้นจะยิ่งทำให้ฟีเจอร์ SmartThings Find
มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
“เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็นการเติบโตของฟีเจอร์ SmartThings Find อย่างรวดเร็วด้วยระบบอีโค่ซิสเต็มของซัมซุงที่เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตได้นั้น สามารถทำให้เกิดประโยชน์และความเป็นได้ใหม่ๆ ให้กลายเป็นจริง รวมไปถึงการลดความกังวลเมื่อลืมว่าวางอุปกรณ์ไว้ที่จุดไหนมากกว่านั้นยังเป็นการเพิ่มความปลอดภัยให้กับอุปกรณ์นั้น” แจยอน จุง รองประธานบริหารและหัวหน้ากลุ่มธุรกิจ SmartThing ของซัมซุงกล่าว “นอกเหนือจากประโยชน์ของ SmartThings Find ที่มอบให้แล้วนั้น ซัมซุงยังมุ่งมั่นพัฒนาให้การใช้งานเทคโนโลยีต่างๆ เหล่านี้อย่างปลอดภัย อีกทั้งยังเป็นฟีเจอร์ที่รวมทั้งความปลอดภัยและ
ความเป็นส่วนตัวที่ได้รับการพัฒนาเพื่อปกป้องข้อมูลของผู้ใช้รวมไปถึงการใช้งานที่ผิดวัตถุประสงค์ นอกจากนี้ยังทำงานร่วมกับภาคส่วนอื่นๆ เพื่อร่วมกันกำหนดและมาตรฐานที่เพิ่มความปลอดภัยให้ดียิ่งขึ้น”
SmartThings Find สามารถค้นหาตำแหน่งของกาแล็คซี่ได้หลากหลายประเภทอย่างรวดเร็วทั้ง สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต,
สมาร์ทวอช และหูฟัง นอกจากนี้ยังสามารถค้นหา Galaxy SmartTag หรือ Galaxy SmartTag+[1] ที่สามารถนำไปติดกับกุญแจหรือกระเป๋าเดินทางได้
สะดวก ปลอดภัย ไม่กลัว!
ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวยังคงเป็นสิ่งที่ซัมซุงให้ความสำคัญที่สุด เนื่องจาก SmartThings Find ยังเป็นฟีเจอร์
ที่มีประโยชน์ต่อผู้ใช้งานจำนวนมาก รวมไปถึงการเข้ารหัสข้อมูลผู้ใช้ที่ทำงานร่วมกับ Samsung Knox ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มความปลอดภัยระดับสูงเพื่อป้องกันข้อมูลไปอีกหนึ่งขั้น ดังนั้นผู้ใช้ต้องเป็นผู้อนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลระบุตำแหน่งที่มาจากอุปกรณ์ผู้อื่นได้ และเลข ID ของผู้ใช้งานจะถูกเปลี่ยนเองทุกๆ 15 นาที และจะถูกจัดเก็บข้อมูลโดยไม่ระบุตัวตน
มากไปกว่านั้น SmartThings Find ยังมีระบบ “Search for unknown tags near you” หรือ “ค้นหาแท็กที่ไม่รู้จักใกล้ตัว”
ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ Android และ iOS สามารถกดเพื่อค้นหาว่ามีแท็กที่ไม่รู้จักอยู่ใกล้ตัวผู้งานหรือไม่ โดยจะมีมาตรวัดความแรงของสัญญาณแท็ก ช่วยให้ผู้ใช้ทราบได้ว่าแท็กที่ไม่รู้จักนั้นอยู่ใกล้กับตำแหน่งปัจจุบันมากน้อยเพียงใด และผู้ใช้ยังสามารถเลือกระบุให้แท็กที่พบนั้น “ปลอดภัย” ได้ด้วยหากจำเป็น
[1] SmartTagและSmartTag+ สามารถใช้งานรวมกับสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และกาแล็คซี่อื่นๆ ที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 8 หรือสูงกว่า ฟีเจอร์การค้นหาแบบใช้ AR (AR finding)
ของ SmartTag+ ใช้งานได้เฉพาะอุปกรณ์ที่รองรับคลื่นอัลตร้าไวด์แบนด์ (UWB) เช่น Galaxy S23+ และ Ultra ,Galaxy S22+ และ Ultra, Galaxy S21+ และUltra, Galaxy Note 20 Ultra,
Galaxy Z Fold 2 3 และ 4
และ SmartThings Find ยังมีระบบ “Unknown tag alerts” หรือ “แจ้งเตือนแท็กที่ไม่รู้จัก”เพื่อความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้กาแล็คซี่ ระบบนี้จะแจ้งเตือนผู้ใช้เมื่อตรวจพบการติดตามจากSmartTag ที่ไม่ได้รับอนุญาต ระบบนี้จะช่วยปกป้องผู้ใช้และช่วยป้องกันมิให้มีการติดตามตำแหน่งปัจจุบันในทางที่ผิด ในการเปิดการทำงานฟีเจอร์นี้ในแท็บ “Life” ของแอป SmartThings ซึ่งในการตั้งค่า ผู้ใช้สามารถเลือกเปิดหรือปิดฟีเจอร์ “Unknown tag alerts” ได้ด้วยตนเอง
พบปัญหาด้านการบริการ ติดต่อ samsung.com/th/support สื่อมวลชนต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ nawanuch.s@samsung.com