เกี่ยวกับบริษัท

ยกระดับระบบสาธารณสุขให้พร้อมเผชิญหน้ากับอนาคต ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย

28-06-2023
แบ่งปันข่าวสาร

 

 

ช่วงสองสามปีที่ผ่านมาระบบบริการสาธารณสุขทั่วโลกตกอยู่ในสภาวะที่ต้องใช้ความสามารถจนถึงขีดสุด โดยโรงพยาบาลต่างๆ ล้วนต้องต่อสู้และทำงานอย่างหนักในด้านความเพียงพอของบุคลากรและโครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณสุข เพื่อให้สามารถรองรับความต้องการในการใช้บริการ

 

เอียน ชอง ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคและหัวหน้าฝ่ายประสบการณ์บนอุปกรณ์มือถือสำหรับลูกค้าองค์กรประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนียของซัมซุงอิเลคโทรนิคส์ กล่าวว่า “การพัฒนาระบบสาธารณสุขทั่วโลกเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งในยุคปัจจุบัน เพื่อรับมือกับวิกฤตการณ์ด้านสาธารณสุขระดับโลกในอนาคต รัฐบาลและผู้ให้บริการดูแลสุขภาพต่างๆ รู้สึกถึงความเร่งด่วนในการพัฒนานวัตกรรมสำหรับระบบสาธารณสุข และเตรียมตัวให้เข้ากับสถานการณ์และพร้อมสำหรับวิฤตการณ์ในอนาคต นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มการเข้าถึงและการรองรับกลุ่มความต้องการต่างๆ เช่น ประชากรผู้สูงวัยที่เพิ่มมากขึ้นและการดูแลรักษาโรคที่ไม่ติดต่อได้

 

เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการดูแลสุขภาพมีบทบาทอย่างสำคัญอย่างยิ่งในการแบ่งปันข้อมูลสุขภาพได้อย่างทันท่วงที หรือในการให้บริการดูแลสุขภาพผ่านระบบสื่อสารทางไกล (Telehealth) เพื่อให้สามารถคัดกลอง วินิจฉัย และรักษาโรคได้ดียิ่งขึ้นตั้งแต่ระยะแรก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่ผู้คนต้องอยู่ในบ้านของตนเองเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค

 

ในขณะที่รัฐบาลและภาคส่วนการดูแลสุขภาพเพิ่มความพยายามในการเปลี่ยนแปลงการดูแลสุขภาพ ทั้งการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้จะเป็นส่วนสำคัญในกลยุทธ์ของพวกเขาเพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นทั้งในด้านการทำงานร่วมกัน และให้ความสำคัญกับผู้คนเป็นสิ่งสำคัญ

 

ซัมซุงร่วมมือกับพันธมิตรด้านการดูแลสุขภาพทั่วโลกด้วยความมุ่งมั่นเพื่อที่จะช่วยสนับสนุนผู้ให้บริการดูแลสุขภาพให้สามารถก้าวทันกับความต้องการที่วิวัฒนาการอย่างต่อเนื่อง ด้วยโซลูชั่นที่ยืดหยุ่นและอุปกรณ์ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการและพร้อมใช้งานในภาคสนาม

 

นี่คือวิธีที่ซัมซุงกำลังใช้เพื่อพลิกโฉมการให้บริการดูแลสุขภาพด้วยความร่วมมือกับพันธมิตร ผ่านโซลูชั่นที่ให้ความสำคัญกับผู้ป่วยเป็นอันดับแรก

 

ในโรงพยาบาล

ข้อมูลผู้ป่วยมักจะถูกเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นโน๊ตบุ๊คหรือแบบตั้งโต๊ะและไม่ค่อยจะอยู่ในมือของบุคลากรทางการแพทย์ในเวลาที่จำเป็นต้องใช้มันมากที่สุด อย่างเช่น Galaxy XCover6 Pro หรือ Galaxy Tab Active4 Pro เป็นอุปกรณ์ที่แกร่งและพร้อมใช้งานที่ช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถเข้าถึงข้อมูลผู้ป่วยที่เกี่ยวข้องในขณะที่ต้องวิ่งวุ่นในการทำงาน และบันทึกข้อมูลเพิ่มเติม[1]ลงในแผนภูมิสุขภาพหรือภาพทางการแพทย์ในขณะที่พูดคุยกับผู้ป่วย นั้นช่วยให้การดูแลสุขภาพเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพในระหว่างเวลาที่พวกเขาอยู่กับผู้ป่วย

 

เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการให้บริการดูแลสุขภาพยังช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับผู้ป่วย และภายในห้องพักอัจฉริยะสำหรับผู้ป่วยที่ใช้แท็บเล็ตซัมซุง ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถเรียกดูข้อมูลและใช้บริการต่างๆ ได้ด้วยตนเอง จึงไม่จำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากบุคลากรทางการแพทย์อีกต่อไป นอกจากนี้ยังช่วยลดภาระของบุคลากรทางการแพทย์ที่ไม่จำเป็นอีกด้วย

 

ที่โรงพยาบาล Mount Sinai[2] มีห้องพักผู้ป่วยประมาณ 450 ห้อง มีการจัดเตรียมแท็บเล็ตซัมซุงกาแล็คซี่ ไว้ในห้องผู้ป่วยที่สามารถเรียกดูประวัติการรักษา รวมถึงผลการตรวจ ตารางการดูแลรักษา ข้อมูลเกี่ยวกับยา ฯลฯ แท็บเล็ตที่จัดไว้ให้นั้นยังสามารถช่วยให้ผู้ป่วยสามารถแชร์ข้อมูลให้กับบุคคลใกล้ชิดทราบได้อีกด้วย หลังจากนำระบบนี้มาใช้ได้ 2 ปี โรงพยาบาลในนิวยอร์กแห่งนี้มีคะแนนที่ดีขึ้นในการประเมิน
ผู้ให้บริการดูแลสุขภาพและระบบการให้บริการจากผู้ใช้บริการ (Hospital Consumer Assessment of Healthcare Providers and Systems Survey) และการทำเช่นนี้มียังช่วยลดภาระที่ไม่จำเป็นของบุคลากรทางการแพทย์ลงได้ด้วย

 

(อินโฟกราฟิกเกี่ยวกับ 5 วิธีที่ห้องพักอัจฉริยะสำหรับผู้ป่วยในจะช่วยมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับผู้ป่วยได้)

 

สำหรับคลินิก

สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานในคลินิกนั้น การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในคลินิกช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถวางตารางการทำงานได้อย่างราบรื่นและยังสามารถจัดการผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการผสานอุปกรณ์มือถือกับโซลูชั่นเพื่อการดูแลจัดการภายนอกช่วยลดการขัดข้องในการให้บริการดูแลรักษาผู้ป่วยได้

การนำเทคโนโลยีการให้บริการดูแลสุขภาพผ่านระบบสื่อสารทางไกล (Telehealth) มาใช้ในการให้บริการดูแลสุขภาพผ่านระบบสื่อสารทางไกลเป็นการพัฒนาที่สำคัญในช่วงสถานาการณ์โรคระบาด หน่วยงานสาธารณสุขของประเทศหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนียได้จับคู่กาแล็คซี่กับเครื่องวัดอุณหภูมิ (Thermometer) และเครื่องวัดออกซิเจนในเลือด (Oximeter) ในรูปแบบดิจิทัลช่วยเฝ้าติดตามผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการไม่รุนแรง เพราะสามารถทำให้พักรักษาตัวที่อยู่ในบ้านได้โดยที่ยังคงมีบุคลากรทางการแพทย์คอยดูแลจากระยะไกล เมื่อโซลูชั่นนี้ได้รับการยกระดับมาใช้ในวงกว้างมากขึ้น จึงสามารถลดปัญหาที่ผู้ให้บริการดูแลสุขภาพบางแห่งต้องแบกรับผู้ป่วยจนเกินขีดจำกัด และช่วยกระจายความแออัดในโรงพยาบาลออกไปสู่คลินิกต่างๆ ในแต่ละพื้นที่

 

สำหรับทีมแพทย์ฉุกเฉิน

โซลูชั่นเพื่อการให้บริการดูแลสุขภาพของซัมซุงจากการทำงานร่วมกับพันธมิตร ช่วยให้ทีมรถพยาบาลและทีมแพทย์ฉุกเฉินสามารถปฏิบัติงานได้อย่างถูกที่ถูกเวลา โดยที่พวกเขาสามารถสื่อสารกับโรงพยาบาลเพื่อเตรียมผู้ป่วยสำหรับการรักษาที่โรงพยาบาลได้ดียิ่งขึ้นในทันทีที่เดินทางไปถึง

 

ยกตัวอย่างเช่น ผู้รับแจ้งเหตุทีมแรกที่ไปถึงอาจจะมีเครื่องเทเลอัลตราซาวนด์แบบมือถือพร้อมด้วยอุปกรณ์จากซัมซุงกาแล็คซี่ เพื่อช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์ได้รับข้อมูลที่จำเป็นและสามารถเตรียมการรักษาไว้ให้พร้อมก่อนที่ผู้ป่วยจะมาถึงโรงพยาบาล การใช้เทคโนโลยีนี้ช่วยลดเวลาที่มีค่าและช่วยในสถานการณ์ฉุกเฉินทางการแพทย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ในชุมชน

การรวมกันของทั้งอุปกรณ์มือถือและข้อมูลที่มีให้เข้าถึงได้ทุกหนแห่งผ่านเครือข่ายบรอดแบนด์ไร้สาย ได้นำมาซึ่งความเป็นไปได้ใหม่ๆ มาสู่การดูแลชุมชนทั่วโลก

 

ยกตัวอย่างเช่น องค์กร BaptistCare New South Wales[3] ในออสเตรเลียได้ร่วมมือกับซัมซุงเพื่อจัดหาอุปกรณ์กาแล็คซี่ ให้บุคลากรทางการแพทย์ในสาขานี้ เพื่อให้บริการดูแลชุมชนที่ดีขึ้นแก่เครือข่ายชุมชนขนาดใหญ่ในภูมิภาค ทั้งในด้านการดูแลผู้สูงอายุ การให้บริการที่บ้าน บริการสำหรับผู้ชัชีวิตในวัยเกษียณ และบริการสนับสนุนทางสังคม

 

เมื่อไม่นานมานี้ ซัมซุงยังได้ร่วมมือกับ Bottneuro AG ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพสัญชาติสวิสในด้านเทคโนโลยีการแพทย์ เพื่อนำเสนอโซลูชั่นดิจิทัลที่ก้าวล้ำและมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นในการวินิจฉัยและให้การรักษาแก่ผู้ป่วยอัลไซเมอร์ผ่าน Samsung Galaxy Tab S8+ Enterprise Edition

 

ท้ายที่สุดแล้ว การให้บริการดูแลสุขภาพด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลจะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อมีความเชื่อมั่นในความปลอดภัยของข้อมูล ด้วยการใช้ Samsung Knox ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มความปลอดภัยที่มีมาตรฐานอุตสาหกรรมและติดตั้งไว้พร้อมในซัมซุงกาแล็คซี่ทุกเครื่อง โดยเป็นระบบความปลอดภัยที่ฝังไว้ทั้งในระดับฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ จึงช่วยปกป้องข้อมูลทางการแพทย์และข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของผู้ป่วยตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง การเข้ารหัสเครือข่าว Wi-Fi ยังช่วยรักษาความปลอดภัยของข้อมูลในการโทรด้วยเสียงและวีดีโอเพื่อให้การดูแลสามารถทำได้ทั้งนอกสถานที่หรือดูแลจากระยะไกลอย่างปลอดภัย

 

ซัมซุงพร้อมด้วยพันธมิตรระดับโลกในด้านเทคโนโลยี มุ่งมั่นที่จะประสานความร่วมมือกับองค์กรสาธารณสุขในภูมิภาคเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับระบบโครงสร้างพื้นฐานและความสามารถผ่านเทคโนโลยี พร้อมทั้งยกระดับการดูแลผู้ป่วยแบบองค์รวมให้ดียิ่งขึ้น

[1] การทำหมายเหตุประกอบโดยใช้ S Pen สามารถใช้งานได้เฉพาะใน Galaxy Tab Active4 Pro เท่านั้น

[2] โรงพยาบาล Mount Sinai มอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับผู้ป่วยด้วยเทคโนโลยีมือถือ

[3] เรื่องราวความสำเร็จของ Knox | BaptistCare (samsungknox.com)

พบปัญหาด้านการบริการ ติดต่อ samsung.com/th/support
สื่อมวลชนต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ nawanuch.s@samsung.com

แผนผังเว็บไซต์

กลับสู่ด้านบน