[บทสัมภาษณ์] โซลาร์เซลล์รีโมท เล็กกว่า เบากว่า ช่วยยกระดับกลยุทธด้านสิ่งแวดล้อมของซัมซุง

เมื่อปี 2022 ซัมซุงประกาศกลยุทธ์ด้านสิ่งแวดล้อมโดยมีเป้าหมายลดการปล่อยคาร์บอนให้เป็นศูนย์ภายในปี 2050

ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน ซัมซุงได้เพิ่มอัตราการใช้วัสดุรีไซเคิลในชิ้นส่วนพลาสติกเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว ภายในปี 2030 ซัมซุงตั้งเป้าจะใช้วัสดุรีไซเคิลเป็นส่วนประกอบมากถึงร้อยละ 50 ของชิ้นส่วนพลาสติกทั้งหมด และจะใช้ชิ้นส่วนพลาสติกที่ผลิตโดยใช้วัสดุรีไซเคิลทั้งหมดภายในปี 2050

โซลาร์เซลล์รีโมทของซัมซุงเป็นตัวอย่างที่แสดงถึงความมุ่งมั่นของซัมซุงที่มีต่อสิ่งแวดล้อม และเนื่องในโอกาสครบรอบ 3 ปีที่รีโมทนี้เริ่มวางจำหน่ายเป็นครั้งแรกในปี 2021 Samsung Newsroom ร่วมกับจองคยุน ลี จากทีมแพลตฟอร์มฮาร์ดแวร์แล็บและฮยุนจู คิมจาก เมชา โซลูชั่น แล็บ (Mecha Solution Lab) ขอใช้โอกาสนี้นำเสนอพัฒนาการของผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมนี้

ขจัดการใช้แบตเตอรี่ใช้แล้วทิ้ง

ซัมซุงพัฒนาโซลาร์เซลล์รีโมทให้เป็นอุปกรณ์ที่สามารถลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการทิ้งแบตเตอรี่ที่ใช้แล้ว โดยรีโมทนี้เป็นรีโมทแบบชาร์จได้รุ่นแรกของโลก ที่มีแผงโซลาร์เซลล์ที่สามารถใช้แสงอาทิตย์หรือแสงไฟภายในห้องต่างๆ เพื่อชาร์จแบตได้ นอกจากนี้ยังสามารถใช้สาย USB-C เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการชาร์จแบตได้ด้วย

“ปริมาณการปล่อยคาร์บอนโดยประมาณของโซลาร์เซลล์รีโมทนับตั้งแต่กระบวนการผลิตจนถึงการกำจัดคิดเป็นเพียง 1 ใน 3 ของการผลิตแบตเตอรี่แบบใช้แล้วทิ้ง[1]”  คุณลี จากทีมแพลตฟอร์มฮาร์ดแวร์แล็บ อธิบาย “เมื่อไม่ต้องใช้แบตเตอรี่แบบใช้แล้วทิ้ง ทำให้ใช้ทรัพยากรน้อยลง และช่วยให้การปล่อยคาร์บอนน้อยลงในระยะยาว เนื่องจากมีการผลิตแบตเตอรี่น้อยลง”

การใช้พลังงานต่ำเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของรีโมทนี้ เนื่องจากโซลาร์เซลล์รีโมทได้รับการออกแบบให้ใช้พลังงานน้อยกว่ารีโมททั่วๆ ไปประมาณร้อยละ 10 “ซัมซุงสร้างความก้าวหน้าอย่างยิ่งจากการลดการทำงานหรือลดสิ่งต่างๆ ที่ไม่จำเป็นลง ซึ่งช่วยประหยัดพลังงานได้มาก” คุณลีกล่าวเสริม

โซลาร์เซลล์รีโมทช่วยรีไซเคิลขยะได้มากกว่า 55 ตัน

ร้อยละ 24 ของพลาสติกที่ใช้ในโซลาร์เซลล์รีโมทมาจากวัสดุรีไซเคิล นั่นหมายความว่าซัมซุงสามารถรีไซเคิลขยะได้กว่า 55 ตันเพื่อเอามาใช้ผลิตโซลาร์เซลล์รีโมทกว่า 10 ล้านอัน ซึ่งการใช้วัสดุรีไซเคิลช่วยลดการปล่อยคาร์บอนลงได้ร้อยละ 18 เมื่อเทียบกับการใช้วัสดุแบบเดิม

การใช้วัสดุรีไซเคิลในกระบวนการผลิตนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพื่อให้ได้วัสดุรีไซเคิลที่คุณภาพดีที่สุด ซัมซุงได้ใช้เวลาและความพยายามหลายครั้งเพื่อพัฒนาและทดลองผสานวัสดุรีไซเคิลในการผลิตองค์ประกอบต่างๆ

“ความกังวลในเรื่องของขยะในท้องทะเลที่สูงขึ้นเรื่อยๆ เราจึงต้องทดลองทำสิ่งต่างๆ มากมายเพื่อหาหนทางที่ดีที่สุด โดยเราเลือกใช้พลาสติกรีไซเคิลจากตาข่ายดักปลาที่เสื่อมสภาพมาเป็นองค์ประกอบร้อยละ 20 ของกรอบโซลาร์เซลล์รีโมทรุ่นปี 2023” ฮยุนจู คิม จากเมชา โซลูชั่น แล็บ เล่า “และนับจากนี้ไป เราตั้งใจจะใช้ทรัพยากรต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและใช้พลาสติกรีไซเคิลเป็นส่วนประกอบมากยิ่งขึ้น”

“ในปีนี้ ซัมซุงเริ่มต้นใช้พลาสติกที่รีไซเคิลมาจากตาข่ายดักปลาที่เลื่อมสภาพแล้ว แม้ว่าพลาสติกรีไซเคิลนี้จะมีราคาแพงและผลิตได้ยาก แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือวัสดุที่มีคุณภาพสูงขึ้นและสอดคล้องกับพันธกิจของซัมซุงที่มุ่งเน้นความยั่งยืนในทุกวัน” คุณคิมกล่าวเพิ่มเติม “กระบวนการผลิตพลาสติกรีไซเคิลนี้ค่อนข้างซับซ้อน เริ่มจากเลือกขยะ ทำความสะอาด ขจัดสารพิษต่างๆ และปรับปรุงคุณสมบัติของวัสดุ”

นิตยสารไทม์ยกย่องให้โซลาร์เซลล์รีโมทเป็นหนึ่งใน “นวัตกรรมยอดเยี่ยมแห่งปี 2022” จากคุณสมบัติด้านความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ไลฟ์สไตล์ทีวีของซัมซุงรุ่นปี 2023 ทุกรุ่นจำหน่ายพร้อมกับโซลาร์เซลล์รีโมท โดยในปี 2023 ซัมซุงมีเป้าหมายจะผสานทั้งผลิตภัณฑ์และกระบวนการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นในทุกผลิตภัณฑ์ และกระจายไปทั่วภูมิภาคมากขึ้น เพื่อให้ผู้บริโภคมีวิถีชีวิตที่ยั่งยืนมากกว่าเดิม

นอกเหนือจากนี้ ซัมซุงยังลดขนาดโซลาร์เซลล์รีโมทรุ่นล่าสุดลงร้อยละ 25 ทำให้ใช้พลาสติกในการผลิตน้อยลงและทำให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น “เมื่อโซลาร์เซลล์รีโมทเล็กลง การใช้พลาสติกในกระบวนการผลิตก็น้อยลง และขนาดของรีโมทก็เป็นขนาดที่เหมาะสมสำหรับผู้บริโภค ส่งผลให้โซลาร์เซลล์รีโมทเป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้นในภาพรวม” คุณลีอธิบาย

ยกระดับกลยุทธด้านความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยหนทางที่ดีกว่าเดิม

ซัมซุงจะดำเนินการในขั้นต่อไปอย่างไร เพื่อความยั่งยืนที่มากขึ้นของโซลาร์เซลล์รีโมท

“เราจะมุ่งมั่นพัฒนาให้รีโมทเบาขึ้น บางลง และเล็กลงเพื่อให้ใช้พลาสติกน้อยลง” คุณคิมกล่าว

“เราตั้งใจจะสร้างรีโมทที่ใช้งานได้ง่าย ผลิตโดยใช้ทรัพยากรและพลังงานน้อยลง” คุณลีกล่าวเพิ่มเติม “เป้าหมายขั้นสูงสุดของซัมซุงคือการช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้ง่ายขึ้น พร้อมกับลดการใช้วัสดุและพลังงาน หากยึดตามเป้าหมายนี้ เป็นไปได้ว่าในวันหนึ่ง เราอาจจะไม่จำเป็นต้องมีรีโมทเลย โซลาร์เซลล์รีโมทเป็นเพียงหนึ่งในก้าวสำคัญที่ซัมซุงสร้างขึ้นเพื่อสร้างความยั่งยืนในทุกๆ วัน และเราพร้อมที่จะค้นหา พัฒนา และนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ สู่สายตาทุกคน” หนทางอันท้าทายของโซลาร์เซลล์รีโมทเพื่อช่วยสร้างวิถีชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นนั้นเป็นเพียงจุดเริ่มต้น

[1] จำนวนแบตเตอรี่สำหรับรีโมทโทรทัศน์ที่ถูกทิ้งหลังเสื่อมสภาพจะอยู่ที่ 14 ลูก ต่อ 7 ปี คำนวณจากข้อมูลว่าผู้บริโภคจะใช้ทีวีส่วนใหญ่เป็นระยะเวลา 7 ปีและเปลี่ยนแบตเตอรี่ขนาด AA ในรีโมทปีละ 1 ครั้งดังนั้น การใช้และชาร์จไฟให้กับโซลาร์เซลล์รีโมทเป็นระยะเวลา 7 ปี จะลดการปล่อยคาร์บอนลงได้ 1 ใน 3 เมื่อเทียบกับการใช้แบตเตอรี่ขนาด AA