แหล่งข้อมูลสำหรับสื่อมวลชน > ข่าวประชาสัมพันธ์

สินค้า > สมาร์ทโฟน

เผยโฉม Samsung Galaxy Z Flip4 และ Galaxy Z Fold4 สมาร์ทโฟนจอพับได้สุดล้ำมากความสามารถ ที่จะมาเปลี่ยนวิถีการใช้งานสมาร์ทโฟนอย่างสิ้นเชิง

16-08-2022
แบ่งปันข่าวสาร

พร้อม FlexCam ใหม่ ที่ทลายขีดจำกัด ให้ทำสิ่งใหม่ได้มากกว่าที่เคย

 

 

ซัมซุงเปิดตัวสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้สุดล้ำ Galaxy Z Flip4 และ Galaxy Z Fold4 มาในรูปลักษณ์ที่ปรับเปลี่ยนได้ตามชอบ รวมถึงมอบประสบการณ์สุดสร้างสรรค์ตามความต้องการของผู้ใช้ได้ พร้อมกับยกระดับประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น Galaxy Z ในเจเนอเรชั่นที่ 4 จะเดินหน้าฉีกกฎเกณฑ์เดิมๆ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้สมาร์ทโฟน    แบบใหม่ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังและทำให้ผู้ใช้ใช้ชีวิตในทุกๆ วันได้สนุกยิ่งขึ้น

 

“Samsung Galaxy ในรูปแบบของสมาร์ทโฟนจอพับได้ ถูกสร้างขึ้นบนปรัชญาของเราที่เปิดใจกว้าง เปิดทางสู่ความเป็นไปได้ใหม่ๆ ด้วยการปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับความต้องการอย่างสมบูรณ์ทั้งภายในและภายนอก สมาร์ทโฟนจอพับได้รุ่นใหม่เหล่านี้ ซัมซุงสร้างสรรค์ขึ้นโดยความร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลก โดยตั้งใจที่จะมอบประสบการณ์การใช้สมาร์ทโฟนที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่เต็มไปด้วยพลังและความมีชีวิตชีวา” ดร. ทีเอ็ม โรห์ ประธานธุรกิจ โมบายล์ เอ็กซ์พีเรียนซ์ ของ ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ กล่าว “การมุ่งมั่นเดินหน้าอย่างแน่วแน่ ประกอบกับความเป็นผู้นำของซัมซุง ทำให้กระแสความตื่นเต้นกับสมาร์ทโฟนจอพับได้ยิ่งเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เราประสบความสำเร็จในการพลิกโฉมกลุ่มผลิตภัณฑ์นี้ จากที่เคยเป็นเรื่องของไอเดียแปลกสุดขั้วในโปรเจคหนึ่ง จนกลายมาเป็นผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟนกระแสหลักซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนนับล้านๆ คนทั่วโลก”

 

จากความทุ่มเทของซัมซุงเพื่อสร้างงานฝีมือที่ดีเลิศ ส่วนประกอบทุกชิ้นของทั้งสองรุ่นจึงได้รับการวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วนเพื่อมอบประสบการณ์ที่ลงตัวที่สุดให้กับผู้ใช้ และเพื่อให้มั่นใจได้ว่าผู้บริโภคทุกคนจะมีดีไซน์ที่เหมาะกับความต้องการของตนเอง โดย Galaxy Z Flip4 ต่อยอดความสำเร็จของรูปลักษณ์ที่โดดเด่นเป็นภาพจำของซัมซุง เพิ่มเติมด้วยฟีเจอร์หลักๆ ทั้งประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นในการใช้กล้องถ่ายภาพ แบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้น[1] และความสามารถในการปรับเปลี่ยนตามความต้องการได้มากยิ่งขึ้น พร้อมกับคงไว้ซึ่งดีไซน์เล็กกระทัดรัดเป็นพิเศษ ส่วน Galaxy Z Fold4 จะเปิดโลกความเป็นไปได้ใหม่ๆ ให้แก่ผู้ใช้งานโดยการมอบประสบการณ์สมาร์ทโฟนที่กว้างไกลที่สุดเท่าที่เคยมีมา นำเสนอดีไซน์ที่แปลงร่างได้ หน้าจอที่ชวนดื่มด่ำกับความสมจริง และฟีเจอร์มัลติทาสกิ้งที่คล้ายกับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ตลอดจนกล้องถ่ายภาพอันก้าวล้ำและหน่วยประมวลผลที่ทรงพลัง

 

 

Galaxy Z Flip4 Fashion Smartphone สุดชิคพกพาสะดวก ที่สุดของไอเท็มเพื่อการบ่งบอกตัวตน มาพร้อม              Flex Camera

Galaxy Z Flip4 เป็นที่สุดของไอเท็มเพื่อการบ่งบอกตัวตน ดีไซน์ฝาพับแบบ Clamshell เล็กกระทัดรัด ให้ประสบการณ์ที่พิเศษเฉพาะตัวในแบบที่หาไม่ได้จากสมาร์ทโฟนอื่นๆ ให้ผู้ใช้บันทึกวิดีโอหรือถ่ายภาพเซลฟี่กลุ่มได้ในหลากหลายมุมมองโดยไม่ต้องถือเครื่อง เพียงพับตัวเครื่องให้เป็นมุมเพื่อเปิดการใช้งานFlexCam[2]  ซึ่งฟีเจอร์นี้ยังใช้ร่วมกับแอปโปรดของผู้ใช้ได้อีกด้วย[3] โดยซัมซุงได้จับมือเป็นพันธมิตรกับ Meta ทำให้ FlexCam ได้รับการปรับตั้งให้ใช้งานได้อย่างดีเยี่ยมกับแพลตฟอร์มโซเชียลยอดฮิต อาทิ Instagram, Facebook และ WhatsApp นอกจากนี้ Galaxy Z Flip4 ยังให้ผู้ใช้ทำสิ่งต่างๆ ได้อีกมากมายกว่าที่เคย เช่น ถ่ายภาพเซลฟี่คุณภาพสูงจากหน้าจอด้านนอกโดยใช้กล้องหลักในโหมด Quick Shot ที่ได้รับการอัพเกรดขึ้นอีกขั้น หรือเริ่มการบันทึกวิดีโอคุณภาพสูงในโหมด Quick Shot แล้วเปลี่ยนเข้าสู่โหมด Flex เพื่อบันทึกต่อเนื่องอย่างไร้การสะดุดในแบบไม่ต้องถือเครื่อง โดยที่ไม่จำเป็นต้องหยุดบันทึกวิดีโอเพื่อเปลี่ยนโหมด เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์ รวมทั้งยังใช้โหมด Quick Shot ถ่ายภาพเซลฟี่แนวตั้งและดูภาพพรีวิวในสัดส่วนจริงของภาพได้อีกด้วย นอกจากนี้กล้องที่พัฒนาขึ้นอีกขั้นยังมากับเซ็นเซอร์ที่สว่างขึ้น 65%[4] ขับเคลื่อนด้วยพลังของ Snapdragon® 8+ Gen 1Mobile Platform จึงให้ภาพถ่ายและวิดีโอที่คมชัดสดใสและ   ไร้การสั่นไหวยิ่งกว่าเดิมทั้งกลางวันและกลางคืน

 

Galaxy Z Flip4 ได้รับการสร้างสรรค์ให้ใช้งานแบบไม่ต้องถือเครื่องได้อย่างแท้จริง ให้ผู้ใช้ทำสิ่งต่างๆ ได้มากยิ่งขึ้นโดยไม่ต้องกางโทรศัพท์ออก ไม่ว่าจะเป็นการโทรศัพท์ ตอบข้อความ ปลดล็อครถยนต์[5] หรือแม้แต่ควบคุมวิดเจ็ต SmartThings Scene[6]              ซึ่งทั้งหมดเหล่านี้สามารถทำได้จากหน้าจอด้านนอก

 

นอกจากนี้ยังสามารถใช้ Galaxy Z Flip4 ถ่ายภาพ รับชมคอนเทนต์ต่างๆ และเชื่อมต่อได้ยาวนานยิ่งขึ้นระหว่างการชาร์จแต่ละครั้งด้วยแบตเตอรี่ 3,700mAh[7] ยิ่งไปกว่านั้น Galaxy Z Flip4 ยังรองรับ Super Fast Charging ที่ชาร์จจนถึงระดับ 50% ของความจุได้ในเวลาประมาณ 30 นาที[8] จึงช่วยให้ผู้ใช้เชื่อมต่อกับโลกรอบตัวได้อย่างต่อเนื่องเมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมด

 

บานพับตัวเครื่องที่เพรียวบางยิ่งขึ้น เส้นขอบที่เหยียดตรง กระจกฝาหลังสีตัดกัน และกรอบตัวเครื่องที่เป็นโลหะมันวาว ผสานกันเป็นดีไซน์อันแสนประณีตของซัมซุง ผู้ใช้ยังสามารถปรับเปลี่ยน Galaxy Z Flip4 ได้ตามความชื่นชอบทั้งด้านในและด้านนอก    โดยใช้ Galaxy Theme หลากหลายแบบกับหน้าจอทั้งด้านนอกและหน้าจอหลักเพื่อเสริมส่งสไตล์ของตนเองด้วยอักษร ไอคอน และดีไซน์ต่างๆ ได้ตามความต้องการ ผู้ใช้ยังสามารถสร้างสรรค์หน้าจอด้านนอกให้มีความเฉพาะตัวด้วยดีไซน์นาฬิกาและพื้นหลังใหม่ๆ ในหลากหลายรูปแบบ ทั้งภาพนิ่ง ภาพในรูปแบบ GIF หรือแม้กระทั่งวิดีโอ[9]

 

 

Galaxy Z Fold4 นวัตกรรมสมาร์ทโฟนสุดล้ำ Multi-task ได้ครบ จบทุกเรื่องในเครื่องเดียว

Galaxy Z Fold4 คือผลลัพธ์จากความมุ่งมั่นของ Samsung Galaxy เพื่อเดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างไม่หยุดยั้ง และเป็นสมาร์ทโฟนที่ทรงพลังที่สุดของซัมซุงในปัจจุบัน Galaxy Z Fold4 ผสานความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีของซัมซุงเอาไว้ทั้งหมด    เพื่อสร้างสรรค์สมาร์ทโฟนที่อัดแน่นฟังก์ชั่นการใช้งานมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะกางเครื่องออก พับปิดเอาไว้ หรือใช้ในโหมด Flex[10] ยิ่งไปกว่านั้น Galaxy Z Fold4 ยังเป็นดีไวซ์รุ่นแรกที่จัดส่งโดยมี Android 12L ติดตั้งไว้แล้ว โดยเป็นระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่นพิเศษที่ Google สร้างขึ้นเพื่อประสบการณ์การใช้งานบนหน้าจอใหญ่ รวมถึงอุปกรณ์แบบพับหน้าจอได้

 

การใช้งานแบบมัลติทาสกิ้งบน Galaxy Z Fold4 ทำได้ง่ายดายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เพื่อให้ผู้ใช้งานทำสิ่งต่างๆ ได้มากขึ้นขณะที่โลดแล่นไปกับทุกวันของชีวิต ทาสก์บาร์ใหม่ (Taskbar)[11]มาในรูปแบบที่คล้ายกับในคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ให้เข้าถึง     แอปพลิเคชันโปรดและแอปพลิเคชันที่ใช้งานบ่อย ได้ง่าย นอกจากนี้การใช้งานมัลติทาสกิ้งยังให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้นจากการสั่งงานด้วยท่าทางแบบใหม่ด้วยการปัดหน้าจอ (Swipe Gestures)[12] เปลี่ยนแอปพลิเคชันที่แสดงผลแบบเต็มหน้าจอไปเป็นหน้าต่างป๊อปอัพ หรือแบ่งครึ่งหน้าจอของคุณเพื่อใช้คุณสมบัติมัลติทาส (Multitask) วิธีอื่นๆ อีกมากมาย[13]

 

การร่วมมือกันระหว่างซัมซุงกับ Google และ Microsoft ได้ยกระดับการใช้งานมัลติทาสกิ้งขึ้นอีกขั้น โดยแอปพลิเคชันต่างๆ ของ Google รวมถึง Chrome และ Gmail ต่างรองรับการลากและวาง (Drag-and-Drop) จึงช่วยให้ผู้ใช้คัดลอกและแปะลิงค์ รูปภาพ และอื่นๆ จากแอปพลิเคชันหนึ่งไปยังอีกแอปพลิเคชันหนึ่งได้อย่างรวดเร็ว และในการใช้ Google Meet ผู้ใช้ยังสามารถเชื่อมต่อกับผู้คนได้มากขึ้นในขณะที่เพลิดเพลินไปกับกิจกรรมเสมือนจริงต่างๆ รวมถึงการรับชมวิดีโอร่วมกันบน YouTube หรือการเล่นเกมด้วยกันผ่านวิดีโอคอล[14] ในส่วนของ Microsoft แอปพลิเคชัน Office ทั้งชุดและ Outlook ยังสามารถใช้ประโยชน์จากหน้าจอแบบพับได้ โดยแสดงข้อมูลบนหน้าจอได้มากขึ้นและมีวิธีในการสร้างปฏิสัมพันธ์กับคอนเทนต์ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเติมเต็มประสบการณ์มัลติทาสกิ้งด้วยฟังก์ชั่นการใช้งาน S Pen[15] จึงช่วยให้ขีดเขียนและจดบันทึกได้แม้ในขณะไม่อยู่ประจำที่ โดยมีที่จัดเก็บเพรียวกระชับอยู่ภายในเคสแบบ Standing Cover with Pen[16]

 

Galaxy Z Fold4 ถ่ายภาพและวิดีโอได้สวยน่าทึ่ง กับเลนส์มุมกว้างที่ยกระดับสู่ความละเอียด 50 ล้านพิกเซลพร้อมพลังซูม Space Zoom 30 เท่า[17] โหมดกล้องถ่ายภาพหลากหลายแบบ ทั้งภาพแสดงการซูม (Zoom Map) ที่ใหญ่ขึ้นซึ่งเรียกใช้ได้ในโหมด Capture View การดูภาพสองหน้าจอ (Dual Preview) และการถ่ายเซลฟี่ด้วยกล้องหลัง (Rear Cam Selfie) ล้วนได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อใช้จุดเด่นของรูปลักษณ์ที่พิเศษเฉพาะตัวสร้างความความยืดหยุ่นในการถ่ายภาพได้มากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น ขนาดพิกเซลที่ใหญ่ขึ้น เซ็นเซอร์ที่สว่างขึ้นถึง 23%[18] และการประมวลผลที่ทรงพลังยิ่งขึ้น ทำให้ผู้ใช้ถ่ายภาพได้คมชัดสดใสแม้ในเวลากลางคืน

 

คอนเทนต์ต่างๆ ยิ่งดูโดดเด่นเป็นพิเศษบนหน้าจอหลักขนาด 7.6 นิ้ว[19] ด้วยหน้าจอที่สว่างยิ่งขึ้น พร้อมอัตรารีเฟรชหน้าจอ 120Hz แบบปรับเปลี่ยนได้เอง[20] และกล้องใต้หน้าจอ (Under Display Camera – UDC) ที่ซ่อนตัวได้เนียนตายิ่งขึ้นด้วยการจัดเรียงพิกเซลแบบ Scatter-type Sub-pixel รูปแบบใหม่ แอปพลิเคชันโซเชียลมีเดียยอดฮิต อาทิ Facebook ได้รับการปรับแต่งให้สร้างประสบการณ์บนหน้าจอขนาดใหญ่ได้อย่างเหมาะสมที่สุดเพื่อให้เพลิดเพลินกับคอนเทนต์ได้มากขึ้น หรือหากเปิดแอปพลิเคชันเพื่อบริการความบันเทิงแบบสตรีมมิ่ง เช่น Netflix[21] ก็สามารถใช้โหมด Flex เพื่อรับชมได้โดยไม่ต้องถือเครื่อง ส่วนในแอปพลิเคชันที่ไม่ได้มีการปรับแต่งเพิ่มเติมเป็นพิเศษ ผู้ใช้ยังสามารถใช้ฟีเจอร์ Flex Mode Touchpad[22] ควบคุมอุปกรณ์ได้โดยไม่ขัดจังหวะการรับชมคอนเทนต์อีกด้วย จึงให้ความแม่นยำในการสั่งหยุด เลื่อนย้อนหลัง และเล่นวิดีโอ หรือซูมเข้าและออกคอนเทนท์ในขณะที่อุปกรณ์อยู่ในโหมด Flex

 

เกมต่างๆ ก็เร็วแรงมากขึ้น ด้วยพลังเหลือเฟือของ Snapdragon® 8+ Gen 1 Mobile Platform และเทคโนโลยี 5G ที่เร็วเกินพิกัด[23] นอกจากบานพับซึ่งเพรียวบางยิ่งขึ้น น้ำหนักที่เบาลง และแม้แต่ขอบจอที่แคบลงแล้ว หน้าจอที่กว้างขึ้นยังทำให้ผู้ใช้สั่งงานโต้ตอบกับเครื่องได้ง่ายขึ้นในขณะที่ใช้หน้าจอด้านนอกโดยใช้มือเพียงข้างเดียว[24]

 

ซัมซุงเดินหน้าท้าทายจากอุปสรรคบนเส้นทางนวัตกรรมอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อตอบสนองความคาดหวังของผู้บริโภคในด้านความทนทานทั้งภายในและภายนอก โครงสร้าง Armor Aluminum และส่วนปิดบานพับ ตลอดจนกระจก Corning® Gorilla® Glass Victus®+ แบบเอ็กซ์คลูซีฟที่ใช้บนหน้าจอด้านนอกและกระจกด้านหลัง ทำให้ทั้ง Galaxy Z Flip4 และ Z Fold4 กันน้ำได้ในระดับ IPX8[25] ผู้ใช้จึงคลายความกังวลใจได้หากต้องติดอยู่กลางสายฝน

 

 

Galaxy Buds2 Pro ดีไซน์พรีเมียมพร้อมขีดสุดแห่งประสบการณ์เสียง

ดีไวซ์ที่เข้ามาเสริมทัพซีรีส์ Galaxy Z ในครั้งนี้ยังมี Galaxy Buds2 Pro ชุดหูฟังระดับสูงสุดรุ่นใหม่ของซัมซุงที่ให้ประสบการณ์ในการรับฟังแบบไร้สายที่เต็มอารมณ์ที่สุด ด้วยดีไซน์ใหม่เล็กกระทัดรัดและการเชื่อมต่อกับทุกแง่มุมในชีวิตประจำวันได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยเทคโนโลยี Hi-Fi 24bit Audio ที่เหนือชั้น[26] ซึ่งให้ช่วงความกว้างของเสียงได้สูง ช่วยให้ผู้ฟังรู้สึกเชื่อมต่อกับ     คอนเทนต์ที่กำลังรับฟังด้วยความละเอียดเสียงที่ชัดกระจ่างสดใส และด้วย Samsung Seamless Codec[27](SSC HiFi) ใหม่ล่าสุด ทำให้สามารถถ่ายโอนเพลงที่มีคุณภาพโดยไม่ต้องหยุด และลำโพงแบบแกนร่วม (Coaxial) สองทางยังให้เสียงที่เต็มอรรถรสกว่าที่เคยอีกด้วย

ดีไซน์ใหม่ในขนาดกระทัดรัดและรูปทรงที่ออกแบบให้เข้ากับสรีระมีขนาดเล็กลงถึง 15%[28] แต่สวมได้อย่างกระชับด้วยการออกแบบเชิงวิศวกรรมให้ป้องกันการหมุนขยับตัว จึงเป็นเพื่อนคู่ใจในการออกกำลังกายได้อย่างยอดเยี่ยม นอกจากนี้ยังรับสายเรียกเข้าได้เป็นอย่างดีแม้อยู่นอกอาคารสถานที่ ด้วยเทคโนโลยี ANC[29] อันทรงพลังที่ช่วยตัดเสียงรบกวนภายนอก Galaxy Buds2 Pro ใหม่ให้ผู้ใช้ปลีกตัวเข้าสู่โลกของตนเอง และในขณะเดียวกันยังคงไว้ซึ่งการเชื่อมต่อกับเรื่องราวรอบตัวในชีวิตได้เป็นอย่างดี

 

เมื่อต้องการรับสายด่วนในขณะที่กำลังเพลิดเพลินอยู่กับการเล่นเกมหรือชมภาพยนตร์บนแท็บเล็ต Galaxy Buds2 Pro สามารถเปลี่ยนการเชื่อมต่อเสียงไปยังโทรศัพท์ได้อย่างราบรื่นเพียงปลายนิ้วสัมผัส Buds2 Pro รุ่นใหม่มีฟีเจอร์ Auto Switch[30] เพื่อสับเปลี่ยนจากรายการทีวีโปรดเป็นรับสายได้อย่างง่ายดาย และหากคุณบังเอิญวาง Galaxy Buds2 Pro ผิดที่ระหว่างการเดินทาง ก็หมดกังวลด้วยฟีเจอร์ SmartThings Find ช่วยค้นหาตำแหน่งได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย

 

Galaxy เพื่อสิ่งแวดล้อมโลก

นับตั้งแต่การเปิดตัวซีรีส์ Galaxy S22 เป็นต้นมา ซัมซุงได้ผสานการใช้วัสดุรีไซเคิลไม่เพียงแค่กับบรรจุภัณฑ์ แต่ยังรวมไปถึงการใช้กับฮาร์ดแวร์ในผลิตภัณฑ์ใหม่ของเรา นับเป็นก้าวแรก ๆ ในโครงการ Galaxy for the Planet ซึ่งรวมถึงการนำพลาสติกรีไซเคิลมาอย่างต่อเนื่องและการสร้างวัสดุใหม่โดยร่วมมือกับพันธมิตรด้านความยั่งยืนชั้นนำ ในขณะที่เรายังคงแสวงหานวัตกรรมในการผลิตที่ยั่งยืน เราภูมิใจที่จะประกาศว่า Galaxy Buds2 Pro ใหม่มากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ทำจากวัสดุรีไซเคิล [31] ส่วนซีรีส์ Galaxy Z ใหม่ได้นำวัสดุพลาสติกที่ตกค้างอยู่ในท้องทะเลมาผสานใช้ในส่วนประกอบหลัก พร้อมกับใช้กระดาษรีไซเคิล 100% ในการผลิตบรรจุภัณฑ์ และยังสามารถลดปริมาณบรรจุภัณฑ์ลงได้ถึง 58%[32]  เมื่อเปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์ Galaxy แบบพับหน้าจอได้ในเจเนอเรชั่นแรก ซึ่งเทียบเท่ากับการหลีกเลี่ยงการปล่อยก๊าซคาร์บอนจากภาคขนส่งได้ประมาณ10,000 ตันในปีนี้[33]

 

ราคาและการวางจำหน่าย

Galaxy Z Flip4 เสริมลุคให้กับสไตล์ของผู้ใช้ด้วยดีไซน์พรีเมียมในสีสันที่ดูสวยล้ำค่า ทั้งสีม่วง (Bora Purple) สีเทา (Graphite) และสีใหม่คือสีชมพูพิงค์โกลด์ (Pink Gold) และสีน้ำเงิน (Blue)[34] และ Galaxy Z Flip4 Bespoke Edition[35] ที่วางจำหน่ายแล้วใน 28 ประเทศทั่วโลก ซึ่งเปิดโอกาสให้เลือกผสมผสานสีสันของกระจกและกรอบได้หลากหลายถึง 75 รูปแบบเพื่อให้ลูกค้าคุมลุคของอุปกรณ์ของตนได้เต็มที่ ซัมซุงยังเสนอการดูแลอัปเกรดแบบ Bespoke Upgrade Care[36] สำหรับผู้ใช้ Galaxy Z Flip4 รุ่น Bespoke อีกด้วย ส่วน Galaxy Z Fold4 และเคส Standing Cover with Pen[37] จะนำเสนอในสีสันที่แสนประณีต ได้แก่สีเขียว (Graygreen) สีเบจ (Beige) และสีดำ (Phantom Black) [38] นอกจากนี้ Galaxy Z Fold4 ยังมีจำหน่ายในสีแดงเบอร์กันดี้ (Burgundy) พร้อมด้วยความจุของหน่วยเก็บข้อมูลที่มากถึง 1 เทระไบต์ โดยวางจำหน่ายแบบเอ็กซ์คลูซีฟทาง samsung.com[39]

 

Galaxy Buds2 Pro มาในเฉดสีใหม่นุ่มนวลตาและสีโทนกลางๆ ทั้งสีเทา (Graphite) สีขาว (White) และสีม่วง (Bora Purple)    เพื่อลุคที่โดดเด่น

 

Galaxy Z Flip4, Z Fold4 และ Buds2 Pro เริ่มเปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าได้แล้วตั้งแต่ 10 สิงหาคม – 1 กันยายน 65          และจะวางจำหน่ายตั้งแต่ 2 กันยายน 65 เป็นต้นไป

 

Galaxy Z Flip4 ราคา 35,900 บาท (128 GB) และราคา 38,900 (256 GB)

Galaxy Z Flip4 Bespoke Edition ราคา 39,900 (256 GB)

Galaxy Z Fold4 ราคา 59,900 (256 GB) และราคา 65,900 (512 GB)

Galaxy Buds2 Pro ในราคา 3,990 บาท

 

สิทธิพิเศษ 5 ต่อ สำหรับผู้ที่สั่งซื้อล่วงหน้าระหว่าง 10 สิงหาคม 65 – 1 กันยายน 65 ที่ samsung.com, Samsung Experience Store และ ร้านค้าที่ร่วมรายการ

ต่อที่ 1:

Galaxy Z Flip4 เลือกรับ กระเป๋า BOYY BOBBY CHARM มูลค่า 8,900 บาท หรือ อัพเกรดความจุเป็น 2 เท่าฟรี! มูลค่าสูงสุด 6,000 บาท / Galaxy Z Fold4 อัพเกรดความจุเป็น 2 เท่าฟรี! มูลค่าสูงสุด 10,000 บาท

ต่อที่ 2: ฟรี ประกันจอ Samsung Care+ 1 ปี เปลี่ยนจอฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ตามมูลค่าคุ้มครอง

ต่อที่ 3: ส่วนลดเพิ่มเติมจากค่าเครื่องที่นำมาแลกอีก 3,000 บาท เมื่อนำสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตมาแลกซื้อ

ต่อที่ 4: ลูกค้านำโค้ดที่ได้จากการลงทะเบียนความสนใจ First to Unfold มาจองจะได้รับฟรี

เคส Slim Stand Cover มูลค่า 1,490 บาท เมื่อพรีออเดอร์ Galaxy Z Fold4 หรือ เคส Silicone Cover with Ring มูลค่า 1,190 บาท เมื่อพรีออเดอร์ Galaxy Z Flip4

ต่อที่ 5: ส่วนลด 30% สำหรับซื้อ Galaxy Watch5 Series เมื่อซื้อในคำสั่งซื้อเดียวกัน

*สินค้าแถมมีจำนวนจำกัด และไม่สามารถเลือกสีได้ เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ samsung.com

 

สั่งซื้อล่วงหน้าได้ที่

Galaxy Z Flip4 https://smsng.store/_pr_global_unpacked

Galaxy Z Fold4 https://smsng.store/PRDigitalUnpacked

 

สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Galaxy Z Flip4 and Z Fold4 ได้ที่เว็บไซต์ www.samsungmobilepress.comnews.samsung.com/global or www.samsung.com/global/galaxy/.

 

* เนื้อหาได้รับการแก้ไขเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2024 เพื่อให้ข้อมูลที่แม่นยำยิ่งขึ้น

 

Galaxy Z Flip4
หน้าจอ

(Display)

หน้าจอหลัก

(Main Screen)

6.7-นิ้ว FHD+*

Dynamic AMOLED 2X 

Infinity Flex Display (2640 x 1080, 22:9)

120Hz adaptive refresh rate (1~120Hz)

*ใช้มาตรวัดแบบไดอะล็อก หน้าจอหลักของสมาร์ทโฟน Galaxy Z Flip4 มีขนาด 6.7 นิ้วเมื่อวัดจากรูปทรงของสมาร์ทโฟนที่เป็นแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้าเต็มรูป และมีขนาด 6.6 นิ้วเมื่อวัดจากมุมขอบที่โค้งมน โดยพื้นที่จริงของสมาร์ทโฟนจะดูน้อยกว่าขนาดจริงเนื่องจากขอบที่โค้งมนและรูกล้อง

หน้าจอ Cover

(Cover Screen)

1.9-นิ้ว Super AMOLED Display*

260 x 512

*ใช้การวัดแบบไดอะล็อก หน้าจอ Cover ของสมาร์ทโฟน Galaxy Z Flip4 มีขนาด 1.9 นิ้ว เมื่อวัดจากรูปทรงของสมาร์ทโฟนที่เป็นแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้าเต็มรูป และมีขนาด 1.8 นิ้ว เมื่อวัดจากมุมขอบที่โค้งมน โดยพื้นที่จริงของสมาร์ทโฟนจะดูน้อยกว่าขนาดจริงเนื่องจากขอบที่โค้งมนและรูกล้อง

ขนาด&น้ำหนัก

(Dimension & Weight)

พับจอ

(Folded)

71.9 x 84.9 x 17.1mm (Hinge) – 15.9mm (Sagging)
กางจอ

(Unfolded)

71.9 x 165.2 x 6.9mm

*ความหนาของ Galaxy Z Flip4 เมื่อกางออกยังไม่รวมกรอบของหน้าจอหลัก  

น้ำหนัก

(Weight)

187 กรัม
กล้อง

(Camera)

กล้องหน้า

(Front Camera)

กล้องเซลฟี่ความละเอียด 10MP

F2.4, ขนาดพิกเซล: 1.22μm, FOV: 80˚

กล้องหลังคู่

(Rear Dual Camera)

กล้องอัลตราไวด์ความละเอียด 12MP

F2.2, ขนาดพิกเซล: 1.12μm, FOV: 123˚

กล้องไวด์แองเกิลขนาด 12MP

Dual Pixel AF, OIS, F1.8, Pixel size: 1.8μm, FOV: 83˚

AP Snapdragon 8+ Gen 1 (4㎚ Octa-Core Processor)
หน่วยความจำ

(Memory)

หน่วยความจำ 8GB RAM / ความจุภายใน 512GB – สำหรับโปรโมชั่น pre-order เท่านั้น

หน่วยความจำ 8GB RAM / ความจุภายใน 256GB

หน่วยความจำ 8GB RAM / ความจุภายใน 128GB

*โมเดลสมาร์ทโฟนในแต่ละหน่วยความจำจะแตกต่างกันไปตามตลาดและช่องทางการจัดจำหน่าย และพื้นที่จัดเก็บข้อมูลจริงอาจแตกต่างกันไปตามตลาด โมเดล ขนาดของไฟล์ และ ฟอร์แมท

แบตเตอรี่

(Battery)

3,700 mAh (typical) dual battery

*การทดสอบค่าเฉลี่ยทดสอบภายใต้เงื่อนไขห้องปฏิบัติการของบุคคลที่ 3 typical คือค่าเฉลี่ยโดยประมาณ พิจารณาจากการลดลงของประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ท่ามกลางกลุ่มตัวอย่างที่ถูกทดสอบภายใต้มาตรฐาน EIC 61960 ความจุสูงสุดขั้นต่ำคือ 3595 mAh อายุการใช้งานจริงของแบตเตอรี่อาจมีความหลากหลาย ขึ้นอยู่กับเครือข่ายสภาพแวดล้อม แพทเทิร์นการใช้งานของผู้ใช้ และปัจจัยอื่น ๆ

การชาร์จ

(Charging)

Super-Fast Charging* : สามารถชาร์จจาก 0% ถึง 50% ได้ภายใน 30 นาที ด้วยอแดปเตอร์ชาร์จไว 25W** หรือสูงกว่า

Fast Wireless Charging 2.0***

Wireless PowerShare****

*สายชาร์จสามารถใช้งานได้กับ QC2.0 และ AFC
**หัวชาร์จอแดปเตอร์ 25W จำหน่ายแยกต่างหาก
***การชาร์จแบบไร้สารสามารถใช้งานได้กับ WPC
****Wireless PowerShare ถูกจำกัดให้ใช้กับ Samsung หรือสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่นๆ ที่รองรับการชาร์จไร้สายแบบ WPC Qi  อาทิ Galaxy Z Fold4, Z Flip4, S22 series, Z Fold3 5G, Z Flip3 5G, S21 FE 5G, S21 series, Z Fold2, Note20 series, S20 series, Z Flip, Note10 series, S10 series, S9 series, S8 series, S7 series, S6 series, Note9, Note8, Note FE, Note5, และอุปกรณ์สำหรับสวมใส่ อาทิ Galaxy Buds2 Pro, Buds2, Buds Pro, Buds Live, Watch5, Watch5 Pro, Watch4, Watch4 Classic, Watch3, Watch Active2, Watch Active, Gear Sport, Gear S3, Galaxy Watch และ Galaxy Buds. อาจใช้ไม่ได้กับอุปกรณ์เสริม cover หรืออุปกรณ์ยี่ห้ออื่นๆ และอาจส่งผลต่อการรับสายหรือการให้บริการข้อมูล โดยขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมเครือข่ายของผู้ใช้

ความสามารถในการกันน้ำ

(Water Resistance)

IPX8

*ความสามารถในการกันน้ำระดับ IPX8 อ้างอิงจากการทดสอบในห้องปฏิบัติการทดลองโดยมีเงื่อนไขคือการหย่อนอุปกรณ์แช่ลงในน้ำจืดความลึก 1.5 เมตรเป็นเวลา 30 นาที ไม่แนะนำให้นำอุปกรณ์ลงในทะเลหรือสระว่ายน้ำ และไม่ป้องกันฝุ่น

ระบบปฏิบัติการ

(OS)

Android 12

One UI 4.1.1

เครือข่ายและการเชื่อมต่อ

(Network and Connectivity)

5G*, LTE**, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax, Bluetooth® v5.2

*บริการเครือข่าย 5G รองรับเฉพาะตำแหน่งที่เปิดให้บริการเครือข่าย 5G เท่านั้น และต้องการการเชื่อมต่อ 5G ที่เสถียร ความเร็วในการใช้งานจริงอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับตลาด ผู้ใช้ สภาพแวดล้อมของผู้ใช้

**ความพร้อมใช้งานของโมเดล LTE มีความหลากหลาย ขึ้นอยู่กับประเทศ ผู้ให้บริการ และสภาพแวดล้อมของผู้ใช้  

เซนเซอร์

(Sensors)

Capacitive Fingerprint sensor (ด้านข้าง), Accelerometer, Barometer, Gyro sensor, Geomagnetic sensor, Hall sensor, Proximity sensor, Light sensor
ความปลอดภัย

(Security)

Samsung Knox, Samsung Knox Vault
ซิมการ์ด

(SIM Card)

One Nano SIM* and one eSIM**

*ซิมการ์ดจะถูกจำหน่ายแยก ความพร้อมในการใช้งานอาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับตลาดและผู้ให้บริการ
**ความพร้อมในการใช้งานของ eSIM อาจมีความแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับเวอร์ชั่นของซอฟท์แวร์ที่ใช้ ภูมิภาค และผู้ให้บริการ ผู้ใช้สามารถเช็คกับผู้ให้บริการได้ว่าดีไวซ์ของคุณรองรับการใช้งาน eSIM หรือไม่

สี

(Colors)

Bora Purple, Graphite, Pink Gold, Blue

[Bespoke Edition] Front/Back(Yellow, White, Navy, Khaki, Red), Frame (Silver/Black/Gold)

* ความพร้อมในการจำหน่ายอาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับตลาด

[1] เมื่อเทียบกับ Galaxy Z Flip3 5G

[2] FlexCam หมายถึงประสบการณ์การใช้กล้องถ่ายภาพในโหมด Flex ซึ่งรองรับการการทำงานเมื่อปรับมุมของเครื่องโทรศัพท์ให้อยู่ในช่วง 75° ถึง 115°

[3] การรองรับการใช้งานอาจแตกต่างกันออกไปในแต่ละแอปพลิเคชั่น

[4] เมื่อเปรียบเทียบกับ Galaxy Z Flip3 5G

[5] ฟีเจอร์นี้อยู่ใน Samsung Wallet ซึ่งการให้บริการและการเปิดตัวฟีเจอร์บางอย่างของ Samsung Wallet อาจแตกต่างกันออกไปในแต่ละประเทศและอุปกรณ์แต่ละรุ่นของผู้ใช้ และอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ทั้งนี้บริการ Digital Automobile Key ยังคงเปิดให้บริการเฉพาะในบางประเทศและสำหรับอุปกรณ์บางรุ่นเท่านั้น

[6] เมื่อเปิดใช้ SmartThings Scene ในแอปพลิเคชั่น SmartThings ไว้แล้วเท่านั้น

[7] เมื่อเปรียบเทียบกับ Galaxy Z Flip3 5G โดยเป็นค่าปกติที่ทดสอบภายใต้สภาวะห้องทดลองของผู้ทดสอบภายนอก ค่าปกติคือค่าเฉลี่ยที่คำนวณได้ โดยพิจารณาถึงค่าความเบี่ยงเบนในเรื่องความจุของแบตเตอรี่ในกลุ่มตัวอย่างแบตเตอรี่ที่ทดสอบโดยใช้มาตรฐาน IEC 61960 ความจุ(ต่ำสุด)ที่วัดค่าได้ คือ 3,595mAh อายุการใช้งานที่แท้จริงของแบตเตอรี่อาจแตกต่างกันออกไปตามสภาพแวดล้อมของเครือข่าย รูปแบบการใช้งาน และปัจจัยอื่นๆ

[8] Super Fast Charging เป็นคุณสมบัติที่ใช้ได้เมื่อใช้กับหัวชาร์จ 25W ขึ้นไปเท่านั้น ค่าที่ระบุเป็นผลจากการทดสอบในห้องทดลองภายในของซัมซุงด้วยหัวชาร์จ Travel Adapter กำลังไฟ 25W ในขณะที่แบตเตอรี่มีประจุไฟเหลืออยู่ 0% โดยที่บริการและฟีเจอร์ต่างๆ รวมถึงหน้าจอของเครื่องโทรศัพท์ถูกปิดการใช้งานเอาไว้ทั้งหมด ความเร็วที่แท้จริงในการชาร์จอาจแตกต่างกันออกไปตามลักษณะการใช้งานที่แท้จริง รวมถึงสภาวะการชาร์จ และปัจจัยอื่นๆ หัวชาร์จ Travel Adapter แยกจำหน่ายต่างหาก แนะนำให้ใช้หัวชาร์จและสายชาร์จที่ได้รับการรับรองจากซัมซุงแล้วเท่านั้น

[9] รองรับวิดีโอความละเอียดตั้งแต่ 176x144 (qCIF) ถึง 1920x1080 (FHD) ความยาวสูงสุดไม่เกิน 15 วินาที และขนาดไฟล์ใหญ่สุดไม่เกิน 100MB

[10] โหมด Flex รองรับการการทำงานเมื่อปรับมุมของเครื่องโทรศัพท์ให้อยู่ในช่วง 75° ถึง 115°

[11] รองรับฟีเจอร์ทาสก์บาร์เมื่อใช้งานบนหน้าจอหลักเท่านั้น

[12] ต้องเปิดใช้งาน Labs ในเมนูการตั้งค่า

[13] บางแอปพลิเคชั่นอาจไม่รองรับฟีเจอร์ Multi Active Window หรือ App Pair

[14] แอปพลิเคชันที่เปิดให้บริการและรองรับการแชร์แบบ Live อาจแตกต่างกันออกไปในแต่ละประเทศและแต่ละอุปกรณ์ ผู้ใช้อาจต้องอัพเดท YouTube และ Google Meet ให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด บางแอปพลิเคชันที่รองรับการแชร์แบบ Live อาจมีเงื่อนไขที่ให้ใช้ได้เฉพาะผู้เป็นสมาชิกบางรูปแบบเท่านั้น

[15] S Pen เป็นอุปกรณ์ที่จำหน่ายแยกต่างหาก Galaxy Z Fold4 รองรับ S Pen เฉพาะหน้าจอหลักเท่านั้น ใช้งานได้กับ S Pen Fold Edition และ S Pen Pro เท่านั้น ส่วน S Pen หรือปากกาสไตลัสรุ่นอื่นๆ ที่ไม่ได้รับการออกแบบสำหรับ Galaxy Z Fold4 (รวมถึงปากกาที่ผลิตโดยผู้ผลิตรายอื่น) อาจทำให้หน้าจอเสียหายได้

[16] S Pen Fold Edition รวมอยู่ในเคสแบบ Standing Cover with Pen ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริมที่จำหน่ายแยกต่างหาก

[17] Space Zoom ที่ให้พลังซูม 30 เท่า ประกอบด้วยออพติคัลซูม 3 เท่า และดิจิทัลซูม 30 เท่า พร้อมด้วยเทคโนโลยี AI Super Resolution ทั้งนี้การซูมเกินกว่า 3 เท่าอาจทำให้คุณภาพของภาพลดลงได้บ้าง

[18] เมื่อเปรียบเทียบกับ Galaxy Z Fold3 5G

[19] เมื่อวัดตามแนวทะแยง หน้าจอของ Galaxy Fold4 จะมีขนาด 7.6 นิ้วโดยการวัดเต็มแนวสี่เหลี่ยมผืนผ้า และจะวัดได้ 7.4 นิ้วหากไม่รวมส่วนโค้งที่มุม ทั้งนี้พื้นที่ที่มองเห็นการแสดงผลจะน้อยกว่าเนื่องจากส่วนโค้งของมุมหน้าจอ

[20] อัตรารีเฟรชหน้าจอจะแตกต่างกันออกไปตามแอปพลิเคชันที่ใช้ และบางแอปพลิเคชันอาจไม่สามารถรองรับอัตรารีเฟรชหน้าจอได้ถึงระดับ 120Hz

[21] ต้องเป็นสมาชิกบริการสตรีมมิ่งของ Netflix

[22] ต้องเปิดใช้งาน Labs ในเมนูการตั้งค่า

[23] ความเร็ว 5G อาจแตกต่างกันออกไปและต้องมีการปรับตั้งค่าเครือข่ายและการเชื่อมต่อให้เหมาะสม (ซึ่งปัจจัยรวมถึงความถี่ แบนด์วิดท์ ความหนาแน่น) โปรดปรึกษาผู้ให้บริการเครือข่ายของท่านในเรื่องการให้บริการ

[24] เมื่อเปรียบเทียบกับ Galaxy Z Fold3 5G

[25] ระดับ IPX8 อ้างอิงถึงสภาวะการทดสอบให้จมอยู่ในน้ำจืดความลึกไม่เกิน 1.5 เมตรเป็นเวลาไม่เกิน 30 นาที ทั้งนี้ไม่แนะนำให้ใช้ในกิจกรรมชายหาดและในสระว่ายน้ำ และอุปกรณ์ไม่ป้องกันฝุ่น

[26]  ต้องใช้ร่วมกับอุปกรณ์ Samsung Galaxy ที่ทำงานบน One UI 4.0 หรือใหม่กว่า การรองรับระบบเสียง 24 บิทอาจมีความแตกต่างกันในแต่ละแอปพลิเคชั่น

[27] ต้องใช้อุปกรณ์ Samsung Galaxy ที่มี One UI เวอร์ชัน 4.0 ขึ้นไป

[28] เมื่อเปรียบเทียบกับขนาดของ Galaxy Buds Pro

[29] ประสิทธิภาพการตัดเสียงรบกวนดีขึ้น 40% เมื่อเทียบกับ Galaxy Buds Pro (เฉลี่ย 50-1kHz)

[30] ฟีเจอร์ Auto Switch สำหรับ Samsung TV สามารถใช้ได้กับ Samsung TV รุ่น ที่วางจำหน่ายตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2022 เป็นต้นไป หรือสามารถใช้ได้กับรุ่นที่ได้รับการอัพเดท Firmware ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2022 เป็นต้นไปเท่านั้น โดยฟีเจอร์ Auto Switch ของ TV สามารถใช้ได้แค่กับการโทรเข้า-ออกเท่านั้น

[31] ส่วนประกอบพลาสติกมากกว่า 90% ของ Galaxy Buds2 Pro ทำจากวัสดุรีไซเคิลบางส่วน Galaxy Buds2 Pro ใช้พลาสติกทั้งหมด 29 กรัม และส่วนประกอบที่มีน้ำหนักมากกว่า 27 กรัมทำจากวัสดุรีไซเคิลบางส่วน ส่วนประกอบแต่ละชิ้นประกอบด้วยอวนจับปลาที่ถูกทิ้ง (พลาสติกในทะเล) หรือวัสดุหลังการบริโภคอย่างน้อย 20% อวนจับปลารีไซเคิลใช้ในส่วนประกอบภายในสามส่วนของกล่องแท่นวางที่ด้านหน้าตัวยึด ที่วางแบตเตอรี่ของตัวยึด และตัวยึด-PCB วัสดุรีไซเคิลหลังผู้บริโภคใช้ในส่วนประกอบภายนอก 8 ชิ้น ส่วนประกอบสี่ชิ้นในเอียร์บัดทั้งสองข้างในกล่องด้านหน้าซ้าย/ขวา และกล่องด้านหลังซ้าย/ขวา และส่วนประกอบสี่อย่างในกล่องแท่นวางที่ด้านหน้าแบบเดโค ส่วนบนของตัวเครื่อง ด้านในของตัวเรือนด้านบน และด้านล่างของตัวเรือน

[32] ปริมาณบรรจุภัณฑ์ของ Galaxy Z Fold4 และ Galaxy Z Flip4 ได้ถูกลดลดทอนลงถึง 58% และ 52% ตามลำดับเมื่อเปรียบเทียบกับ Galaxy Fold และ Galaxy Z Flip

[33] คำนวณโดยอิงจากมาตรฐาน ISO 14040:2006 และ ISO 14044:2006 โดยใช้ฐานข้อมูล Ecoinvent 3.8 สำหรับการขนส่งจากเกาหลีไปยุโรปโดยใช้ยานพาหนะรุ่น SM-F700F, SM-F721B, SM-F900F และ SM-F936B

[34] สีที่วางจำหน่ายอาจแตกต่างกันออกไปในแต่ละประเทศ ผู้ให้บริการเครือข่าย และผู้จำหน่ายปลีก

[37] อุปกรณ์เสริม จำหน่ายแยกต่างหาก

[38] สีที่วางจำหน่ายอาจแตกต่างกันออกไปในแต่ละประเทศ ผู้ให้บริการเครือข่าย และผู้ค้าปลีก

[39] ความจุของหน่วยเก็บข้อมูลที่ใช้ได้อาจแตกต่างกันออกไปตามซอฟท์แวร์ทิ่ติดตั้งมาในตัวเครื่อง สีพิเศษที่วางจำหน่ายเฉพาะในช่องทางออนไลน์จะต้องผลิตขึ้นเป็นพิเศษ กรุณาเผื่อเวลาในการจัดส่ง 3-4 สัปดาห์ (โดยประมาณ)

พบปัญหาด้านการบริการ ติดต่อ samsung.com/th/support
สื่อมวลชนต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ nawanuch.s@samsung.com

แผนผังเว็บไซต์

กลับสู่ด้านบน