Galaxy Watch และเซ็นเซอร์ BioActive ใหม่สามารถปรับปรุงโซลูชันด้านการดูแลสุขภาพโดยรวมและเชิงป้องกันให้ดียิ่งขึ้นได้อย่างไร

ซัมซุงผู้ขับเคลื่อนนวัตกรรมด้านสุขภาพดิจิทัล มุ่งเน้นให้การดูแลสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นสำหรับทุกคน Samsung ได้รวบรวมข้อมูลและเมตริกต่าง ๆ เพื่อประสบการณ์การดูแลสุขภาพที่มีประสิทธิภาพและเป็นระเบียบมากขึ้น วิธีการนี้เริ่มต้นผ่านการยกระดับการเข้าถึงการตรวจสอบสุขภาพที่ง่ายและแม่นยำ ผ่านเซนเซอร์ BioActive ของซัมซุง ซึ่งให้ข้อมูลสุขภาพที่ครอบคลุม  และแม่นยำยิ่งขึ้นของแต่ละบุคคล นอกจากนี้ซัมซุง กำลังจะเปิดตัวเซนเซอร์ BioActive รุ่นใหม่ล่าสุด ใน Galaxy Watch รุ่นต่อไป เซนเซอร์ใหม่นี้จะช่วยให้คุณสามารถใช้งานฟีเจอร์การคาดการณ์ด้านสุขภาพเพื่อป้องกันล่วงหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่เคยมีมาก่อนบนอุปกรณ์สวมใส่ ทั้งยังวัดสุขภาพได้แม่นยำยิ่งขึ้นอีกด้วย[1]

ขอแนะนำเซ็นเซอร์ BioActive ใหม่ของ Samsung!

เซนเซอร์ BioActive ใหม่นี้จะช่วยมอบประสบการณ์ดูแลสุขภาพเชิงป้องกันที่ดียิ่งขึ้นใน Galaxy Watch รุ่นต่อไป โดยมีการปรับปรุงการออกแบบเพื่อส่งมอบข้อมูลด้านสุขภาพที่แม่นยำยิ่งขึ้น โดยทีมงานของซัมซุงได้อัพเกรดเซนเซอร์ใหม่ 3 ด้านคือการเพิ่มประสิทธิภาพของโฟโต้ไดโอดที่รับแสง, การเพิ่มสีของไดโอดเปล่งแสง (LED) และการจัดเรียง LED อย่างเหมาะสมบนเซนเซอร์

ซัมซุงได้เพิ่มประสิทธิภาพของโฟโต้ไดโอดแต่ละตัวมากกว่าสองเท่า ทำให้สามารถลดลงจากแปดเหลือสี่ตัวได้ การออกแบบใหม่นี้ช่วยให้มีพื้นที่ว่างเพิ่มขึ้นสำหรับการรวม LED ที่หลากหลายและมากขึ้น ทำให้สามารถจัดวาง LED ได้อย่างเหมาะสมบนเซนเซอร์ เซนเซอร์ใหม่นี้ประกอบด้วย LED สีฟ้า เหลือง ม่วง และอัลตราไวโอเลต รวมถึง LED สีเขียว แดง และอินฟราเรดที่เพิ่มขึ้น ด้วยการรวมและการจัดวาง LED เหล่านี้ โฟโต้ไดโอดที่ออกแบบมาเป็นพิเศษของ Samsung กำลังก้าวไปอีกขั้น ซึ่งพร้อมแล้วให้คุณสามารถสำรวจด้านสุขภาพใหม่ๆ บนอุปกรณ์สวมใส่ได้

ความแม่นยำและความเป็นไปได้ที่มากขึ้นสำหรับการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน

การจัดสรร LED สีเขียว แดง และอินฟราเรดอย่างเหมาะสมนี้ได้กลายเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับเทคโนโลยีของอุปกรณ์สวมใส่ โดยเพิ่มความแม่นยำและเปิดโอกาสให้มีประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมในด้านสุขภาพ ช่วยให้เซ็นเซอร์ BioActive ใหม่สามารถวัดการวัดด้านสุขภาพ เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ คุณภาพการนอนหลับ ความดันโลหิต[2], ระดับออกซิเจนในเลือด และระดับความเครียด[3] ได้อย่างแม่นยำ แม้แต่การวัดอัตราการเต้นของหัวใจระหว่างการออกกำลังกายแบบเข้มข้นก็ยังสามารถวัดได้อย่างแม่นยำมากขึ้น 30% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน

สี LED ที่หลากหลายยิ่งขึ้นและโฟโตไดโอดที่ออกแบบใหม่จะช่วยปลดล็อกความเป็นไปได้ใหม่ๆ และช่วยให้คุณสามารถคาดการณ์สิ่งต่างๆได้ดีขึ้น และดำเนินการเชิงรุกเพื่อการดูแลป้องกัน ฟีเจอร์แรกคือค่า Advanced Glycation End Products (AGEs)[4]  ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้สุขภาพการเผาผลาญและการประเมินอายุชีวภาพจากไลฟ์สไตล์โดยรวมและพฤติกรรมการบริโภคอาหาร ดัชนีนี้ให้ภาพรวมของอายุทางชีวภาพของคุณเพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลมากขึ้นเกี่ยวกับการมีสุขภาพที่ดีของคุณในปัจจุบันและอนาคต การเพิ่มมาของดัชนี AGEs เป็นเพียงหนึ่งในฟีเจอร์ขั้นสูงใหม่สำหรับ Galaxy Watch รุ่นถัดไป

Galaxy Watch รุ่นถัดไปจะจะมาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ๆด้านสุขภาพที่ซับล้ำสมัยและฉลาดยิ่งขึ้นเพื่อสุขภาพและความเป็นอยู่ทีดีที่สุด โปรดรอฟังอัพเดตจากเราได้เลย!

หมายเหตุ:

[1] เปรียบเทียบกับ Galaxy Watch6

[2] ฟีเจอร์วัดความดันโลหิตมีเฉพาะในบางตลาดเท่านั้น เพื่อความถูกต้องแม่นยำ ผู้ใช้ควรวัดความดันทุกๆ สี่สัปดาห์ด้วยผ้าพันแขนวัดความดันโลหิต ทั้งนี้ แอป BP ไม่สามารถวินิจฉัยความดันโลหิตสูงหรือสภาวะอื่นๆ หรือตรวจสอบสัญญาณของหัวใจวายได้ และผู้ใช้งานต้องมีอายุ 22 ปีขึ้นไปเท่านั้น ฟีเจอร์ดังกล่าวไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อจะมาแทนที่การวินิจฉัยหรือการรักษาโดยผู้เชี่ยวชาญหรือแพทย์แต่อย่างใด

[3] ความพร้อมใช้งานของฟีเจอร์ต่างๆอาจแตกต่างกันไป Galaxy Watch มีวัตถุประสงค์ด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีโดยทั่วไปเท่านั้น ไม่ได้มีไว้สำหรับใช้ในการตรวจหา วินิจฉัย หรือรักษาโรคหรืออาการทางการแพทย์ใดๆทั้งสิ้น

[4] การตรวจสอบดัชนี AGEs มีเฉพาะใน Galaxy Watch7 และ Galaxy Watch Ultra เท่านั้น Galaxy Watch ใช้เซ็นเซอร์วัดแสงภายในขีดจำกัดที่กำหนดโดยกฎระเบียบด้านความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีผิวไวต่อแสงอาจเกิดอาการไม่พึงประสงค์จากแสง เช่น ผิวเปลี่ยนสีหรือมีผื่นขึ้น หลีกเลี่ยงการใช้ฟีเจอร์นี้หากคุณมีปฏิกิริยาไวเกินต่อแสง การตรวจสอบดัชนี AGEs มีไว้เพื่อการออกกำลังกายและสุขภาพที่ดีเท่านั้น ไม่ใช่เพื่อการวินิจฉัยและการรักษาโรคใดๆ หากคุณกังวลด้านสุขภาพ โปรดปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างเหมาะสม