Game on! : ยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมที่เหนือกว่าด้วยมอนิเตอร์จากซัมซุง

Game on! เป็นซีรีส์สามส่วนที่เจาะลึกถึงแนวโน้มของเกมและอีสปอร์ตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย
รวมไปถึงแนวทางที่ซัมซุงพัฒนาเพื่อความก้าวหน้าและสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมผ่านอุปกรณ์และแกดเจ็ตรุ่นล่าสุด

ซัมซุงเป็นผู้สนับสนุนหลักของงานสัปดาห์อีสปอร์ตโอลิมปิก (Olympics Esports Week – OEW) ที่จัดขึ้นที่สิงคโปร์เป็นครั้งแรก ในวันที่ 22 ถึง 25 มิถุนายน ที่ผ่านมานี้ ซึ่งซัมซุงมีความสนใจใน
อีสปอร์ตและมุ่งมั่นที่จะยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมของเกมเมอร์ และยังสร้างความประทับใจให้กับผู้คนกว่าหลายล้านคนทั่วโลกด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่พัฒนามากขึ้นในวงการอีสปอร์ต

ทุกคนที่ฝันจะก้าวสู่การเป็นนักกีฬาอีสปอร์ตอาชีพสามารถเข้าสู่การผจญภัยนี้ได้ ด้วยความสนุกสนานและประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมที่ซัมซุงมอบให้ผู้ใช้งาน รวมถึงจอเกมมิ่งมอนิเตอร์หลายรุ่นที่มีรีเฟรชเรตที่ดีที่สุดในกลุ่มเกมมิ่งมอนิเตอร์ และภาพที่คมชัดซึ่งจะช่วยเพิ่มความสนุกและความมันส์ในการเล่นเกมอีสปอร์ตได้

1. พบกับประสบการณ์การใช้งานที่หลากหลาย

ทำให้ชีวิตประจำวันเป็นการผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่ด้วย Odyssey Ark ที่ก้าวล้ำทันสมัยของซัมซุง ซึ่งเป็นหน้าจอเกมโค้งแบบ 1000R ขนาด 55 นิ้ว รุ่นแรกของโลก ที่ทำให้ผู้ใช้งานได้สัมผัสประสบการณ์ที่สมจริงและโอบล้อมให้ได้ดื่มด่ำไปอีกระดับ

จอมอนิเตอร์ Odyssey Ark สามารถให้ประสบการณ์ที่สุดเสมือนจริงให้กับผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นกัปตันยานอวกาศหรือ
ขับเครื่องบินขับไล่ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถสัมผัสกับประสบการณ์ที่เหมือนจริงผ่านโหมด Cockpit[1] ของจอในขณะเล่นเกม นอกจากนี้ยังสามารถได้ยินเสียงที่มีรายละเอียดสูงที่เกิดจากเทคโนโลยีซาวด์โดมที่ใช้ระบบเสียง Dolby Atmos
เพื่อสร้างประสบการณ์การเล่นเกมให้สมจริงและได้รับความสนุกได้อย่างเต็มที่

เมื่อใช้จอมอนิเตอร์ Odyssey Ark จะช่วยให้ผู้ใช้งานได้ปลดปล่อยความเป็นเกมเมอร์ในตัวออกมาในขณะที่เล่นเกมที่มี
ฉากแอ็กชั่นหรือฉากที่ต้องการการตอบสนองอย่างรวดเร็ว เนื่องจากจอมอนิเตอร์รุ่นนี้อัตราการรีเฟรชอยู่ที่ 165hz รวมไปถึงมีอัตราการตอบสนองพิกเซลจอที่ 1 มิลลิวินาที (ตามหน่วยการวัดGtG)[2] และฟีเจอร์ FreeStyle Premium Pro นอกจากนี้ยังมี Samsung Gaming Hub[3]ที่ช่วยยกระดับคลังเกมให้สามารถเข้าถึงเกมได้ทั้งพีซี คอนโซล หรือแม้แต่เกมที่เล่นบนคลาวด์ได้สะดวกและง่ายมากขึ้น

จอมอนิเตอร์ที่เป็นเสมือนห้องเล่นเกมส่วนตัวที่สามารถปรับเปลี่ยนให้เป็นเพื่อนคู่ใจสำหรับในการชมภาพยนตร์ การทำงาน หรือการเรียนได้เช่นกัน โดยรองรับการแบ่งหน้าจอเพื่อแสดงผลได้มากขึ้น ผู้ใช้งานสามารถดู Youtube ได้ขณะเล่นเกม หรือทำกิจกรรมอื่นๆ พร้อมกันได้ กับฟีเจอร์มัลติวิว[4] ช่วยให้ผู้ใช้งานปรับแต่งการแสดงผลได้มากขึ้น รองรับการแสดงผลได้สูงสุดถึง 4 หน้าจอย่อเมื่อตั้งค่าขนาดแต่ละหน้าจอย่อยเป็นขนาดปกติและจัดเรียงแต่ละวินโดว์ได้

2. หน้าจอโค้งเพื่อประสบการณ์ที่สมจริง

Odyssey OLED G9 ถือว่าเป็นมอนิเตอร์สำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเกมเมอร์หรือผู้ใช้งานทั่วไปที่ต้องการประสบการณ์ด้านภาพที่ดีที่สุด

จอมอนิเตอร์รุ่นล่าสุดใน Odyssey คือจอแสดงผลโค้งรุ่น Odyssey OLED G9 1800R ที่ให้มุมมองภาพกว้างขึ้น และยังมอบประสบการณ์การเล่นเกมให้ผู้ใช้ได้ดื่มด่ำกับโลกของเกมได้มากกว่าที่เคย ทั้งภาพที่สวยน่าทึ่งและคมชัดกว่าเดิม รวมถึงเกมเพลย์ที่ไหลลื่นและรวดเร็ว ด้วยอัตราส่วนหน้าจอที่ 32:9 ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมมัลติเพลย์เยอร์หรือเกมออกผจญภัยในเกมแบบโอเพ่นเวิร์ล

เทคโนโลยี AMD FreeSync™ Premium Pro ช่วยยกระดับการแสดงผลของจอมอนิเตอร์ Odyssey OLED G9 ไปอีกขั้น
รวมไปถึงเทคโนโลยี DisplayHDR™ True Black 400 ช่วยเพิ่มรายละเอียดการแสดงผลให้สีสันที่สวยงามเพื่อให้ผู้ใช้สนุกกับการเล่นเกมหรือการรับชมเนื้อหาที่หลากหลายได้มากยิ่งขึ้น

หากไม่ได้เล่นเกม จอมอนิเตอร์รุ่นนี้ยังมีฟีเจอร์ Smart Hub ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินไปกับความบันเทิงในรูปแบบอื่นๆ นอกจากการเล่นเกมยังสามารถใช้งานแอปสตรีมมิ่งต่างๆ เช่น Netflix, Hulu และ YouTube ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสตรีมรายการวิดีโอที่ชอบจากคลาวด์โดยไม่ต้องดาวน์โหลด นอกจากนี้ยังเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยประหยัดเนื้อที่บนเดสก์ท็อปหรือ
Set-top box[5] ได้อีกด้วย

3. มาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรมเกมเมอร์

ในฐานะที่เป็นเกมเมอร์ จอมอนิเตอร์ที่สร้างความแตกต่างในการเล่นเกม ทั้งการเล่นต่างๆหรือมีปฏิสัมพันธ์กับเกมเมอร์อื่นๆ

มอนิเตอร์แบบ Ultra-HD รุ่นแรกของโลกคือ Odyssey Neo G9 Gaming Monitor เป็นเหมือนเพื่อนคู่หูที่จะช่วยให้เอาชนะได้ในทุกเกม ด้วยเทคโนโลยี Quantum Matrix และ Quantum Mini ที่ช่วยให้ใช้งานได้สะดวก อีกทั้งยังช่วยปรับระดับความสว่างหรือความต่างของแสงที่เหมาะสมกับทุกเกม เพื่อให้ผู้เล่นได้สัมผัสกับภาพคมชัดที่สมจริงทั้งการแสดงของแสงและเงาในเกม

จอมอนิเตอร์หน้าจอโค้งแบบ 1,000R ขนาด 57 นิ้ว ให้ประสบการณ์โลกเสมือนจริงที่ความละเอียด 7,680×2,160
กับอัตราส่วนหน้าจอ 32:9 ในหน้าจอเดียวเป็นครั้งแรกของโลก นอกจากนี้ยังสามารถสัมผัสกับแอ็กชั่นต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วด้วยอัตราการรีเฟรชที่ 240hz และอัตราการตอบสนองพิกเซลจอที่ 1 มิลลิวินาที (ตามหน่วยการวัดGtG) ช่วยให้สามารถ
คว้าชัยชนะและสัมผัสกับการเล่นเกมที่ไหลลื่นได้อย่างสมบูรณ์แบบ

อาการปวดตาหรือความเมื่อยล้าจะน้อยลงเมื่อใช้ Odyssey Neo G9 Gaming Monitor เนื่องจากเทคโนโลยี Samsung Matte Display ซึ่งช่วยลดการสะท้อนแสงและลดสิ่งรบกวนสายตา ทำให้ผู้ใช้สามารถเล่นเกมได้ยาวนานมากขึ้น

ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของการเล่นเกมไปกับกลุ่มผลิตภัณฑ์เกมมิ่งมอนิเตอร์ของซัมซุง ทั้ง Odyssey Ark และ Odyssey Neo G9 ได้ตั้งแต่วันนี้ไม่ว่าจะเป็นเกมเมอร์แบบไหน ซึ่งจอมอนิเตอร์เหล่านี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถดื่มด่ำกับโลกเสมือนจริง
และประสบการณ์การเล่นเกมแบบที่ไม่เคยมาก่อน

[1] โปรดปรับทิศทางหน้าจอด้วยตัวท่านเองเมื่อใช้งานค็อกพิทโหมด

[2] ย่อมาจากเกรย์ทูเกรย์ (Gray to Gray) ซึ่งเป็นหน่วยการวัดความเร็วของพิกเซลที่ใช้เพื่อวัดอัตราการตอบสนองพิกเซลของเกมมิ่งมอนิเตอร์

[3] Samsung Gaming Hub และแอปใช้งานได้ในบางพื้นที่เท่านั้น บริการและเนื้อหาอาจแตกต่างกันตามพื้นที่และพันธมิตร

[4] เมื่อใช้โหมด Cockpit ฟีเจอร์มัลติวิวจะแสดงหน้าจอย่อยได้ 3 หน้าจอพร้อมกันต่อจอมอนิเตอร์ 1 จอ ทั้งนี้ ฟีเจอร์เกมโหมด VRR และการเล่นเกมผ่านคลาวด์ไม่สามารถใช้งานกับฟีเจอร์มัลติวิวได้ ฟีเจอร์นี้รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายนอกได้ 1 ชิ้น (รวมถึงการเชื่อมต่อผ่านพอต์ตHDMI) และสามารถแสดงภาพจากหน้าจอของอุปกรณ์อื่นที่รองรับได้เพียง 1 อุปกรณ์ เมื่อรับสัญญาณภาพจากอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ ฟีเจอร์นี้จะรองรับรีเฟรชเรตสูงสุด 120hz หากต้องการแสดงผลในอัตราส่วนหน้าจอ 9:16 ต้องเลือกการแสดงผลเป็นแนวตั้งเมื่อตั้งค่าครั้งแรก

.

[5] ฟีเจอร์นี้ต้องใช้การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต