แหล่งข้อมูลสำหรับสื่อมวลชน > ข่าวประชาสัมพันธ์
เปิดตัวแล้ววันนี้ Galaxy Buds Pro หูฟังไร้สายที่ดีที่สุดจากซัมซุง คุณภาพเสียงระดับพรีเมียม ให้ทุกช่วงเวลาพิเศษกว่าที่เคย
บริษัท ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เปิดตัว Galaxy Buds Pro (กาแลคซี่ บัดส์ โปร) สุดยอดนวัตกรรมหูฟังไร้สาย ที่มาพร้อมคุณภาพเสียงระดับสตูดิโอที่ดีที่สุดจากซัมซุง โดดเด่นด้วย Active Noise Canceling อัจฉริยะ กับครั้งแรกที่สลับโหมดฟังเสียงรอบข้างด้วยเสียงพูด และสามารถตัดเสียงรบกวนภายนอกได้สูงสุดถึง 99%[1] พร้อมมอบประสบการณ์การเชื่อมต่อที่สะดวกยิ่งขึ้น มาในดีไซน์โฉมใหม่ โฉมเฉี่ยว สวยงาม ลงตัวกับทุกการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการทำงานหรือเพื่อความบันเทิง Galaxy Buds Pro ก็พร้อมเปลี่ยนทุกช่วงเวลาให้พิเศษกว่าที่เคย
ที่สุดแห่งคุณภาพเสียงอันเหนือชั้น คมชัดทุกการสนทนา
Galaxy Buds Pro มอบเสียงเบสที่หนักแน่นและเสียงสูงที่คมชัด กับวูฟเฟอร์ขนาด 11 มม. และทวีตเตอร์ขนาด 6.5 มม. ให้ผู้ฟังเพลิดเพลินกับประสบการณ์ที่หลากหลาย ไม่ว่าบีทฮิปฮอป หรือดนตรีคลาสสิกที่ซับซ้อน ก็เต็มอิ่มด้วยคุณภาพเสียงที่สมดุล คมชัด และสมจริง
ไม่เพียงเฉพาะด้านความบันเทิง แต่ในยุคนี้ หูฟังยังถือเป็นไอเท็มที่คนส่วนใหญ่ใช้ในการติดต่อสื่อสารเรื่องงานอีกด้วย ดังนั้นคุณภาพเสียงขณะโทรศัพท์นั้นจึงสำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่ง Galaxy Buds Pro มาพร้อมไมโครโฟนถึง 3 ตัว พร้อมด้วยเทคโนโลยี Voice Pickup Unit (VPU) จึงสามารถแยกเสียงสนทนาออกจากเสียงรบกวนรอบข้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งไมโครโฟนด้านนอก ยังมีค่า SNR หรืออัตราส่วนสัญญานต่อเสียงรบกวนที่สูง จึงช่วยขจัดเสียงรบกวนออกไปได้ดียิ่งขึ้น ในขณะที่รูปทรงของ Galaxy Buds Pro ยังได้รับการออกแบบขึ้นเป็นพิเศษเพื่อลดการปะทะกับลม ซึ่งเมื่อทำงานร่วมกับเทคโนโลยีกรองเสียงลม (Wind Shield) แล้ว จะช่วยให้ทุกบทสนทนาคมชัดแม้อยู่ในพื้นที่ลมแรงนั่นเอง
ครั้งแรกกับ Active Noise Canceling อัจฉริยะของหูฟังไร้สาย
Galaxy Buds Pro มาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวน หรือ Active Noise Canceling (ANC) [2] ที่เรียกได้ว่าชาญฉลาดที่สุดในกลุ่มหูฟังไร้สาย[3] สามารถตัดเสียงรบกวนภายนอกได้ตามต้องการสูงสุดถึง 99%[4] ให้คุณโฟกัสกับงานหรือดื่มด่ำกับซีรี่ส์โปรดได้อย่างเต็มที่ และเมื่อใช้งานในโหมด Ambient Sound ก็สามารถเลือกปรับเสียงสภาพแวดล้อมโดยรอบได้ถึง 4 ระดับ สูงสุดกว่า 20 เดซิเบล ช่วยเพิ่มความปลอดภัยขณะเดินทางบนท้องถนน หรือเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ปกครองที่ต้อง Work from home และดูแลเด็กๆ ที่บ้านไปพร้อมๆ กัน
ที่พิเศษไปกว่านั้น คือระบบ Voice Detect ที่ ANC สามารถทำงานร่วมกับ Ambient Sound ได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้การสื่อสาร จากการปรับการใช้งานให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของผู้ใส่ โดยเมื่อตรวจจับได้ว่ามีการสนทนา Galaxy Buds Pro จะสลับโหมดจากการตัดเสียงรบกวนเป็นขยายเสียงให้แทน[5] พร้อมลดความดังของคอนเทนต์ที่ฟังอยู่ลง เพื่อให้ผู้ใส่ได้ยินเสียงสนทนาของตัวเองได้ชัดเจนขึ้น โดยไม่ต้องถอดหูฟัง
อัปเกรดประสบการณ์การเชื่อมต่อที่ราบรื่น
Galaxy Buds Pro ช่วยเติมเต็ม Galaxy Ecosystem พร้อมมอบการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตจากซัมซุงที่ง่ายดายและลื่นไหลยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องอาศัยการตั้งค่าใดๆ[6] ยกตัวอย่างเช่น ขณะที่ดูซีรี่ส์บน Galaxy Tab S7 แต่มีสายเรียกเข้ามาที่ Galaxy S21 ฟีเจอร์ Auto Switch จะทำหน้าที่ช่วยหยุดวิดีโอชั่วคราว แล้วสลับไปรับสายโทรศัพท์ผ่าน Galaxy Buds Pro ให้โดยอัตโนมัติ และเมื่อวางสาย ก็จะสลับกลับมาเล่นวิดีโอบนแท็บเล็ตได้อย่างต่อเนื่อง ไม่มีสะดุด
เมื่อเชื่อมต่อ Galaxy Buds Pro กับดีไวซ์อื่นๆ ในตระกูลกาแลคซี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ Galaxy S21 ผู้ใช้จะได้สัมผัสประสบการณ์ที่เต็มอิ่มยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นระบบเสียงรอบทิศทางแบบ 360 องศาด้วยเทคโนโลยี Dolby Head TrackingTM[7] ไปจนถึงการถ่าย Vlog ที่คมชัดทั้งเสียงพูดและเสียงพื้นหลัง หรือจะเพิ่มอรรถรสขณะเล่นเกมด้วย Game Mode ที่อาศัยประสิทธิภาพความหน่วงเสียงต่ำบนความเร็วแรงของสมาร์ทโฟนระดับแฟลกชิป
คล่องตัวทุกที่ทุกเวลา เพราะแบตเตอรี่ของ Galaxy Buds Pro สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 8 ชั่วโมง พร้อมแบตเตอรี่สำรองอีก 20 ชั่วโมงจากเคสชาร์จไร้สาย และในกรณีที่เปิดใช้งาน ANC ก็ยังเพลิดเพลินได้กว่า 5 ชั่วโมงพร้อมใช้งานจากแบตเตอรี่สำรองจากในเคสได้อีก 13 ชั่วโมง[8] แม้แบตหมดระหว่างวันก็สะดวกทันใจด้วยฟีเจอร์ชาร์จเร็ว เพียง 5 นาทีก็พร้อมใช้งานต่อได้อีก 1 ชั่วโมงเลยทีเดียว[9]
Galaxy Buds Pro มาพร้อมมาตรฐานกันน้ำระดับ IPX7[10] ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดในไลน์อัปของหูฟัง Galaxy Buds จากซัมซุง นอกจากนี้ ยังหมดกังวลเรื่องทำหล่นหาย เพราะฟีเจอร์ SmartThings Find สามารถระบุตำแหน่งของหูฟังทั้งสองข้างได้อย่างง่ายดายแม้อยู่นอกระยะสัญญาณบลูทูธ[11]
ดีไซน์ใหม่ โฉบเฉี่ยวทันสมัย และตอบโจทย์ด้านการใช้งาน
นอกจากฟังก์ชันการใช้งานที่เหนือชั้นแล้ว ด้านดีไซน์ก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน โดยซัมซุงได้แรงบันดาลใจในการพัฒนา Galaxy Buds Pro จากรูปทรงสุดไอคอนิกของ Galaxy Buds Live โดยเพิ่มความโค้งรับให้เข้ากับสรีระของหูยิ่งขึ้น ดีไซน์ใหม่นี้ยังลดพื้นสัมผัสระหว่างตัวหูฟังกับผิวหนัง จึงสวมใส่สบาย เป็นธรรมชาติ ไม่รู้สึกอึดอัดแม้ใส่อย่างต่อเนื่อง
ที่สำคัญ Galaxy Buds Pro ยังเป็นอุปกรณ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยลดปริมาณขยะฝังกลบ เพราะชิ้นส่วนกว่า 20% ถูกผลิตขึ้นจากวัสดุที่ผ่านการรีไซเคิล หรือ Post-Consumer Materials (PCM)
ซัมซุง Galaxy Buds Pro (กาแลคซี่ บัดส์ โปร) เปิดตัวอย่างเป็นทางการทั้งหมด 3 สีสุดโมเดิร์น[12] ได้แก่ Phantom Black, Phantom Silver และ Phantom Violet สุดหรู สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมของ Galaxy Buds Pro ได้ที่ http://www.samsung.com/th/galaxy-buds-pro/, https://news.samsung.com/th/, และ https://www.samsungmobilepress.com/
[1] ANC ของ Galaxy Buds Pro ผ่านการรับรองจาก UL ว่ามีประสิทธิภาพในการตัดเสียงรบกวนภายนอกที่ระดับ 118.43Hz ได้สูงถึง 99% โดยฟีเจอร์ต่างๆ รวมถึง ANC จะเปิดใช้งานได้ผ่านการเชื่อมต่อบลูทูธ หรือผ่านแอปพลิเคชัน Galaxy Wearable บน Android ซึ่งมีให้บริการบน Galaxy Store หรือ Google Play Store
[2] Galaxy Buds Pro สามารถแยกระหว่างเสียงรบกวนกับเสียงพูดได้ สามารถสลับโหมด Ambient Sound แบบชั่วคราว และเมื่อมีการพูดคุย จะลดเสียงของคอนเทนต์ลง เพื่อให้ได้ยินเสียงสนทนาของตัวเองได้ชัดขึ้นโดยไม่ต้องถอดหูฟังออก
[3] เปรียบเทียบกับหูฟัง True Wireless จากแบรนด์ชั้นนำที่จำหน่ายในประเทศไทยในปี 2563
[4] ANC ของ Galaxy Buds Pro ผ่านการรับรองจาก UL ว่ามีประสิทธิภาพในการตัดเสียงรบกวนภายนอกที่ระดับ 118.43Hz ได้สูงถึง 99% โดยฟีเจอร์ต่างๆ รวมถึง ANC จะเปิดใช้งานได้ผ่านการเชื่อมต่อ Bluetooth® หรือผ่านแอปพลิเคชัน Galaxy Wearable บน Android ซึ่งมีให้บริการบน Galaxy Store หรือ Google Play Store
[5] ฟีเจอร์ ANC, Ambient Sound และ Voice Detect สามารถตั้งค่าได้ในแอปพลิเคชัน Galaxy Wearable
[6] ฟีเจอร์นี้รองรับบนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตจากซัมซุงที่มี One UI เวอร์ชัน 3.1 ขึ้นไป สามารถเลือกเปิดหรือปิดได้ผ่านการตั้งค่า Bluetooth® โดยดีไวซ์ที่รองรับต้องใช้บัญชีซัมซุงเดียวกัน ซึ่งฟังก์ชันที่รองรับอาจแตกต่างกันไปในแต่ละแอปพลิเคชัน
[7] ฟีเจอร์นี้รองรับบนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตจากซัมซุงที่มี One UI เวอร์ชัน 3.1 ขึ้นไป ซึ่งจะปรากฏในแท็บ Advanced บนแอป Galaxy Wearable โดยการรองรับอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ แอปพลิเคชัน และคอนเทนต์ เมื่อเชื่อมต่อกับ Dolby Atmos จะเพิ่มความหนักแน่น รายละเอียดและความคมชัดของเสียงได้ดียิ่งขึ้น
[8] ทดสอบจากการใช้งานที่ตั้งค่าเริ่มต้น เมื่อเปิดใช้งาน Bixby voice wake-up และการตรวจจับเสียง (Voice Detect) อายุแบตเตอรี่อาจะแตกต่างออกไปตามลักษณะการใช้งาน เช่น การตั้งค่าฟังก์ชัน, รูปแบบไฟล์ที่เปิดฟัง, และความแรงของสัญญาน Bluetooth®
[9] ความเร็วในการชาร์จทดสอบจากหูฟังที่มีแบตเตอรี่คงเหลือต่ำกว่า 30% ในขณะที่เริ่มชาร์จ เวลาในการชาร์จอาจแตกต่างออกไปขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ลักษณะการใช้งาน และจำนวนครั้งที่ชาร์จ
[10] IPX7 ทดสอบในห้องปฏิบัติการ โดยสามารถแช่ในน้ำจืดที่ความลึก 1 เมตรได้เป็นเวลา 30 นาที ไม่แนะนำการใช้งานกับกรณีน้ำทะเลหรือสระว่ายน้ำ หากหูฟังมีความเสียหายอาจไม่สามารถกันน้ำได้ ตัวเคสไม่กันน้ำ หากตัวหูฟังหรือมือของผู้ใช้เปียกน้ำ ต้องเช็ดให้แห้งก่อนนำไปใส่ในเคส
[11] ตำแหน่งของหูฟังที่สูญหายที่พบด้วย SmartThings Find คือตำแหน่งโดยประมาณที่ตรวจจับสัญญานของอุปกรณ์ได้ ฟีเจอร์ SmartThings Find รองรับบนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตจากซัมซุงที่มีระบบปฏิบัติการ Android 8 ขึ้นไป โดยอาจแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศและเครือข่าย
[12] สีที่วางจำหน่ายอาจแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ
พบปัญหาด้านการบริการ ติดต่อ samsung.com/th/support สื่อมวลชนต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ nawanuch.s@samsung.com