สินค้า > ธุรกิจองค์กร

บทความ

ยกระดับความปลอดภัยในการทำงานแบบไฮบริด ด้วย Samsung Galaxy Enterprise Edition

09-06-2022
แบ่งปันข่าวสาร

 

จากสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบันเทรนด์การทำงานทั้งในด้านสถานที่และอุปกรณ์ได้มีการเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งจากการที่พนักงานต้องใช้งานอุปกรณ์ส่วนตัวในการเชื่อมต่อกับเครือข่ายข้อมูลของบริษัท ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์มากยิ่งขึ้น  พร้อมเกิดเป็นสถานการณ์อันท้าทายสำหรับองค์กรที่สนับสนุนการทำงานแบบไฮบริด ที่ต้องตื่นตัวเพื่อพร้อมรับมือกับเหล่าแฮกเกอร์อยู่เสมอ

 

แล้วภัยคุกคามเหล่านี้อันตรายแค่ไหน? รู้หรือไม่ว่าแค่เพียงช่วงต้นปี 2022 สถาบัน AV-TEST ได้มีการลงทะเบียนมัลแวร์เพิ่มขึ้นกว่า 40 ล้านชนิด ในระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น

 

สำหรับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง (SMBs) ที่มักจะไม่มีระบบการรักษาความปลอดภัยในระดับเดียวกันกับองค์กรขนาดใหญ่ อาจทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการถูกโจมตีทางไซเบอร์ได้มากกว่า ซึ่งจากผลการสำรวจผู้ประกอบการ SMBs ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกปี 2020 โดย PwC พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมากกว่าครึ่งมีการร้องเรียนเรื่องการโจมตีทางไซเบอร์มาตั้งแต่ปี 2018 โดย 76% ของธุรกิจเหล่านั้นถูกโจมตีทางไซเบอร์หลายครั้ง และมากกว่า 1 ใน 10 ของเหตุการณ์เกิดขึ้นจากโมบายดีไวซ์หรือแท็บเล็ต[1]

 

และจากการที่โมบายดีไวซ์ยังคงเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการทำงานแบบไฮบริด ด้วยเหตุนี้ ซัมซุงจึงได้นำเสนอสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตในตระกูล Galaxy Enterprise Edition เพื่อตอบโจทย์การทำงานขององค์กรทุกขนาด ผ่านการมอบโซลูชันที่มีประสิทธิภาพและง่ายต่อการปรับใช้เพื่อให้เข้ากับทุกรูปแบบการทำงาน รวมถึงสามารถควบคุมและปกป้องอุปกรณ์ได้ดียิ่งขึ้นไม่ว่าจะทำงานที่ไหนก็ตาม

 

ทั้งนี้ อุปกรณ์สำหรับใช้ในองค์กรส่วนมากมักจะมีฟีเจอร์ต่างๆ ที่ไม่น่าสนใจเท่าอุปกรณ์ที่ขายให้ผู้บริโภคทั่วไป แต่จุดเด่นของ Galaxy Enterprise Edition คือการนำเสนอสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตสำหรับใช้งานในองค์กรในรูปแบบของดีไวซ์ชั้นนำในอุตสาหกรรมที่ได้รับการยอมรับและเป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภคทั่วโลก

 

 

โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ล่าสุดของ Galaxy Enterprise Edition ได้แก่ Galaxy S22 Series 5G สมาร์ทโฟนระดับแฟลกชิปที่นำเสนอนวัตกรรมที่ดีที่สุดของซัมซุง พร้อมรวมฟีเจอร์ความปลอดภัยด้านไอทีอันล้ำสมัยมาไว้ในเครื่องเดียว สมาร์ทโฟนรุ่น Galaxy S21 5G รวมถึงอุปกรณ์กลุ่ม Rugged Device อย่าง แท็บเล็ต Galaxy Tab Active3 LTE และสมาร์ทโฟน Galaxy XCover5 โดยทั้งนี้ เพื่อเป็นการช่วยสนับสนุนองค์กรของคุณให้ปรับตัวเข้ากับการทำงานแบบไฮบริดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซัมซุงจึงขอแนะนำ 3 จุดเด่นของ Galaxy Enterprise Edition เพื่อให้ทุกคนได้รู้จักผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้ดียิ่งขึ้น

 

 

  1.  โซลูชัน Knox สำหรับการจัดการอุปกรณ์อย่างปลอดภัยและคล่องตัว

 

 

Samsung Knox คือโซลูชันอันล้ำสมัยที่ผสมผสานระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ใช้ซัมซุงทั้งในรูปแบบองค์กรธุรกิจและผู้บริโภค มาพร้อมกับการป้องกันหลายชั้นเพื่อรับมือกับการโจมตีจากผู้บุกรุกตลอดจนมัลแวร์และภัยคุกคามที่เป็นอันตรายอื่นๆ

 

Samsung Knox ได้รับการรับรองด้านความปลอดภัยอย่างมากมาย จากรัฐบาลทั่วโลกและเหล่านักวิเคราะห์เมื่อเปรียบเทียบกับดีไวซ์ แพลตฟอร์ม หรือระบบปฏิบัติการอื่น โดยนับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2013 Samsung Knox ได้รักษาความปลอดภัยให้กับอุปกรณ์ซัมซุงกว่า 1 พันล้านเครื่อง และใช้ในการจัดการอุปกรณ์กว่า 70 ล้านเครื่องต่อวัน

 

ปัจจุบัน Samsung Knox ได้รับการปรับใช้ในองค์กรชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็น Prudential, Grab, Pepsico และ Kia เพื่อส่งเสริมและปกป้องการทำงานแบบเคลื่อนที่ให้มีความปลอดภัยยิ่งขึ้น

 

นอกจากนี้อุปกรณ์ในกลุ่ม Galaxy Enterprise Edition ยังสามารถใช้งาน Knox Suite ได้ฟรีหนึ่งปี โดยแพลตฟอร์มด้านความปลอดภัยที่ติดตั้งมาพร้อมกับตัวเครื่อง และสามารถใช้งานทันทีหลังแกะกล่องนี้ จะประกอบไปด้วยชุดเครื่องมือในการจัดการอุปกรณ์แบบครบวงจร เพื่อให้เจ้าของธุรกิจและผู้ดูแลระบบไอทีสามารถควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างราบรื่น ทั้งการรักษาความปลอดภัย การปรับใช้ การจัดการ และการวิเคราะห์ฟังก์ชันอื่นๆ

 

  1. ระบบสนับสนุนและการอัปเดตซอฟต์แวร์อย่างต่อเนื่อง

 

 

Galaxy Enterprise Edition มอบการดูแลระบบความปลอดภัยต่อเนื่องสูงสุดห้าปี[2] รวมถึงแพตช์สำหรับระบบปฏิบัติการของ Android และซัมซุง ดังนั้นคุณจึงมั่นใจได้ว่า อุปกรณ์ในองค์กรจะได้รับการอัปเดตที่สำคัญตลอดช่วงอายุของผลิตภัณฑ์ ซึ่งการรักษาประสิทธิภาพของอุปกรณ์ให้ใช้งานได้ยาวนาน ถือเป็นการมอบความคุ้มค่าให้กับผู้ประกอบการอย่างเหนือชั้น

 

นอกจากนี้ Knox Suite ยังมี Knox Manage ที่ช่วยให้องค์กรสามารถควบคุมอุปกรณ์จากระยะไกลได้เมื่อพนักงานทำอุปกรณ์หายหรือต้องการความช่วยเหลือเกี่ยวกับปัญหาทางเทคนิค รวมถึงการจัดการปัญหาที่อาจเกิดขึ้นระหว่าง OS และเวอร์ชันเฟิร์มแวร์ ด้วยการให้ Knox Enterprise Firmware Over-The-Air (E-FOTA) ทำงานร่วมกับ Knox Manage เพื่อช่วยให้องค์กรสามารถกำหนดเวลาในการอัปเดตเฟิร์มแวร์ พร้อมป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาระหว่างแอปฯ และ OS จากการลืมอัปเดตเฟิร์มแวร์ไว้ล่วงหน้า

 

  1. อุ่นใจด้วยการรับประกันอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์อย่างน้อยสองปี

 

การปรับใช้อุปกรณ์ภายในองค์กร มักมีกระบวนการที่ใช้ระยะเวลานาน ตั้งแต่การวางแผนงบประมาณ การทดสอบ และการนำไปปรับใช้จริง ดังนั้นสิ่งสำคัญสำหรับองค์กร คือการเลือกอุปกรณ์ที่มีอายุการใช้งานยาวนาน ด้วยเหตุนี้อุปกรณ์ในกลุ่ม Galaxy Enterprise Edition จึงวางแผนให้พร้อมวางจำหน่ายในระยะเวลาอย่างน้อยสองปี[3]หลังจากการเปิดตัวทั่วโลก เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้ทีมไอทีมีเวลาในการจัดการ ทดสอบ และนำไปปรับใช้ ในขณะเดียวกันก็ยังสามารถดูแลการใช้งานอุปกรณ์เดิมทั่วทั้งองค์กรได้ พร้อมกันนี้

 

การลงทะเบียน Knox Mobile ของ Knox Suite ยังได้รับการออกแบบให้ทำได้อย่างรวดเร็วและพร้อมกันครั้งละหลายเครื่องผ่านการจัดการโมบายดีไวซ์ขององค์กร (MDM) หรือ โซลูชันการจัดการความคล่องตัวขององค์กร (EMM) อีกด้วย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง https://www.samsung.com/th/business/mobile/enterprise-edition/

 

[1] จากผลการศึกษาของ PwC ในปี 2020 เรื่องเทรนด์ความปลอดภัยทางไซเบอร์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
[2] ความถี่ของการอัปเดตความปลอดภัยอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับรุ่น
[3] ความพร้อมใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามตลาด

พบปัญหาด้านการบริการ ติดต่อ samsung.com/th/support
สื่อมวลชนต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ nawanuch.s@samsung.com

แผนผังเว็บไซต์

กลับสู่ด้านบน