สินค้า > ทีวีและเครื่องเสียง
สินค้า > เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน
[CES 2022] ผู้เชี่ยวชาญแถวหน้าเผยเบื้องหลังสุดยอดนวัตกรรมและเทคโนโลยีในผลิตภัณฑ์ล่าสุดของซัมซุง ①
โลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วผลักดันให้เราต้องคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ และปรับตัวอยู่เสมอ ดังนั้นผลิตภัณฑ์ล่าสุดจาก ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จึงนำเสนอการใช้ชีวิตแบบใหม่ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
งานแสดงสินค้าอิเลคโทรนิคส์นานาชาติ CES 2022 ได้มอบโอกาสให้ผู้ที่เข้าร่วมและรับชมทางออนไลน์ได้สัมผัสความความล้ำหน้าทางนวัตกรรมแห่งอนาคตด้วยตาตัวเอง ซัมซุงได้เผยถึงรูปแบบอนาคตที่ดีกว่าซึ่งจะเป็นจริงได้ในอนาคตอันใกล้ ด้วยผลิตภัณฑ์จอภาพ เครื่องใช้ไฟฟ้า ไปจนถึงผลิตภัณฑ์อื่นๆ และบริการอีกด้วย
บทความนี้รวมผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่ไม่ควรพลาดจากบูธแสดงสินค้าของซัมซุงในงาน CES 2022 ที่อัดแน่นไปด้วยนวัตกรรมที่น่าสนใจ โดยเป็นบทสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญผู้อยู่เบื้องหลังสุดยอดนวัตกรรม
ในบทความส่วนแรกของซีรีส์บทความ 2 ชิ้น นางเทลลี ลี รองประธาน ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน และนายจองแร คิม จากแผนกธุรกิจภาพและเสียง จะเผยเบื้องหลังการออกแบบเครื่องใช้ไฟฟ้าและโปรเจกเตอร์รุ่นล่าสุดที่จะช่วยยกระดับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้
ครัว Bespoke: เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่จะยกระดับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้
▲ นางเทลลี ลี รองประธาน ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน และหัวหน้าฝ่ายวางแผนกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องครัว และ ตู้เย็น Bespoke ของซัมซุง
ถาม: ช่วยเล่าเกี่ยวกับเครื่องใช้ภายในบ้านและเทคโนโลยีที่ถูกจัดแสดงในงาน CES 2022
ตอบ: ภายในงาน เราเน้นผลิตภัณฑ์ภายในห้องครัวในไลน์อัพ Bespoke โดยไลน์อัพนี้เริ่มต้นจากตู้เย็นรุ่นแฟลกชิปที่สามารถปรับเปลี่ยนสีให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ได้ ซัมซุงได้ขยายไลน์อัพของผลิตภัณฑ์ให้ครอบคลุมมากขึ้น โดยเปิดตัวตู้เย็นแบบ FDR (French Door refrigerators) ในตลาดสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีทั้งรุ่น 3 ประตู และ 4 ประตู นับเป็นการขยายไลน์อัพครั้งใหญ่หลังการเพิ่มผลิตภัณฑ์รุ่น 4-Door Flex (ตู้เย็นแบบ 4 ประตู), Bottom-Mount Freezer (BMF) และ 1-Door Column (ตู้เย็นแบบประตูเดียว) ในปี 2021
จุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของตู้เย็น Bespoke คือ Beverage Center ที่มีเครื่องจ่ายน้ำซึ่งถูกซ่อนอยู่หลังประตู ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย ถูกสุขลักษณะ และมาพร้อมดีไซน์ที่ดูกลมกลืนกับเฟอร์นิเจอร์ของบ้าน นอกจากนี้ซัมซุงยังได้จัดแสดงผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งของเครื่องใช้ภายในห้องครัว เช่น เตาอบรูปแบบต่างๆ และเครื่องล้างจาน ซึ่งมาพร้อมสีสันและรูปแบบมากมายให้ผู้ใช้ได้เลือกตามความต้องการ
ในปัจจุบัน เราเห็นว่าลูกค้าในสหรัฐอเมริกาจำนวนมากเลือกการออกแบบสไตล์โมเดิร์นให้กับห้องครัว ไลน์อัพ Bespoke ตอบโจทย์ความต้องการนี้ ด้วยการมอบอิสระในการตกแต่งห้องครัวตามรสนิยมส่วนตัวให้กับผู้ใช้ โดยเรามีตัวเลือกสีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสีที่ดูกลมกลืนกับบรรยากาศห้อง หรือสีสันฉูดฉาดที่สามารถเพิ่มความน่าสนใจได้ห้องธรรมดา
ในงาน CES ซัมซุงได้นำเสนอ SmartThings Cooking บริการเชื่อมต่อประสบการณ์ภายในครัว ที่จะกำจัดความหนักใจเรื่องทำอาหารให้กับผู้ใช้ โดย SmartThings Cooking จะช่วยแนะนำเมนูที่น่าสนใจ และมอบข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เพื่อช่วยประหยัดเวลาในการทำอาหาร อีกทั้งจะช่วยแนะนำสูตรอาหาร และข้อมูลทางโภชนาการ รวมถึงช่วยวางแผนมื้ออาหารที่ตรงกับความชอบและเหมาะสมกับผู้ใช้ที่สุด นอกจากนี้ในขณะที่ทำอาหารข้อมูลขั้นตอนต่างๆ ยังถูกเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ของซัมซุงอีกด้วย
ถาม: Bespoke รุ่นใหม่มีจุดเด่นหรือจุดที่น่าสนใจอะไรที่ไม่ควรพลาด
ตอบ: ก่อนอื่นเลย เราขอกล่าวถึงการขยายไลน์อัพ Bespoke ที่ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเลือกตู้เย็นที่สะท้อนความชอบและตัวตนผ่านทางสีและวัสดุที่มีให้เลือกอย่างหลากหลาย นับตั้งแต่การเปิดตัว Bespoke ในประเทศสหรัฐอเมริกา ปี 2021 เราได้รับเสียงตอบรับต่อผลิตภัณฑ์ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้ซัมซุงจึงเพิ่มตู้เย็นแบบ French Door เข้ามาในไลน์อัพ Bespoke ปี 2022 ซึ่งมาพร้อมกับ 12 สีให้เลือก หมายความว่าผู้ใช้สามารถจับคู่สีได้มากกว่า 20,000 รูปแบบ เรามั่นใจว่าไม่มีตู้เย็นที่ไหนที่จะมอบอิสระในการปรับเปลี่ยนให้กับผู้บริโภคได้มากเท่ากับตู้เย็น Bespoke จากซัมซุง
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ Beverage Center ที่มาพร้อมกับถังน้ำแบบ AutoFill ความจุ 1.4 ลิตร รวมถึงฟีเจอร์ Dual Auto Ice ที่สามารถผลิตและบรรจุน้ำแข็งได้ถึง 4.1 กิโลกรัม ยิ่งไปกว่านั้นฟีเจอร์ FlexZone ยังมีโหมดให้เลือกถึง 5 โหมด เพื่อรักษาอุณหภูมิให้เหมาะสมที่สุดกับวัตถุดิบชนิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เนื้อสัตว์ อาหารทะเล ผลไม้ และผัก สุดยอดฟีเจอร์ทั้งหมดนี้จะช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับชีวิตประจำวันของผู้ใช้ได้เป็นอย่างมาก
ผู้ใช้งานยังสามารถสัมผัสกับห้องครัวที่ชาญฉลาดด้วยตู้เย็น Family Hub ซึ่งได้เพิ่มเข้ามาในไลน์อัพ Bespoke แล้ว ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินกับเพลงและคอนเทนต์ในห้องครัว รวมถึงสามารถควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวและอุปกรณ์อัจฉริยะอื่นๆ เพียงปลายนิ้วสัมผัสผ่านหน้าจอขนาดใหญ่บนตู้เย็น และด้วยหน้าจอที่ผสานเข้ากับแผงประตูได้อย่างลงตัว ร่วมด้วยการออกแบบที่ลดขอบให้บางลง Bespoke Family Hub จึงสามารถผสมผสานเข้ากับทุกพื้นที่ได้อย่างลงตัว เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์และการใช้งาน
นอกจากนี้ เราขอแนะนำแอปพลิเคชัน Bespoke Atelier ซึ่งเราได้เปิดตัวไปแล้วในประเทศเกาหลีใต้ โดยแอปพลิเคชันนี้ให้ผู้ใช้ได้เข้าถึงผลงานศิลปะจากศิลปินระดับโลกมากกว่า 170 ชิ้น ครอบคลุมหลากหลายช่วงเวลา เทรนด์ และธีมต่างๆ อีกทั้งยังช่วยแนะนำผลงานศิลปะและสามารถสร้างแกลเลอรีส่วนตัวได้ด้วยการปรับแต่งการแสดงผลเพื่อให้เหมาะกับรสนิยมของผู้ใช้มากที่สุด นอกจากนี้เมื่อผู้ใช้เลือกใช้งานการแสดงผลในโหมด Listening ระบบจะอธิบายรายละเอียดของงานศิลปะพร้อมแสดงคำบรรยาย ทำให้รู้สึกเพลิดเพลินเสมือนยกเอาพิพิธภัณฑ์ศิลปะมาไว้ในห้องครัวของคุณ
▲ ตู้เย็น Bespoke Family Hub ของทางซัมซุง
ถาม: วิถีการใช้ชีวิตของคนเราเปลี่ยนไปมากในช่วงระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา เพราะเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในการเชื่อมโยงผู้คนมากขึ้น คุณคิดว่าผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่จัดแสดงในงาน CES 2022 จะส่งผลต่อชีวิตของผู้คนอย่างไร?
ตอบ: เนื่องจากผู้คนใช้เวลาอยู่ที่บ้านมากขึ้น จึงเกิดเป็นไลฟ์สไตล์แบบ “มีบ้านเป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิต” (Home Centric) โดยเราคาดว่าแนวโน้มนี้จะดำเนินต่อไปในปี 2022 และในขณะเดียวกันความกังวลเรื่องความยั่งยืนยังคงเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะหลังเหตุการณ์สำคัญอย่าง การประชุม COP26 ขององค์การสหประชาชาติ รวมถึงกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้นทั่วโลก ส่งผลให้ไลฟ์สไตล์และความสนใจของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปด้วย ซัมซุงจึงมองหาโซลูชันให้กับห้องครัวที่สามารถ “ออกแบบได้ ฉลาดขึ้น และยั่งยืนมากขึ้น”
โซลูชันห้องครัวที่ปรับเปลี่ยนได้ของเราถูกออกแบบมาให้ตอบโจทย์ผู้ใช้ที่ใช้เวลาส่วนใหญ่ในครัวและมีความต้องการที่จะปรับปรุงพื้นที่ให้สะท้อนรสนิยมของตัวเอง ด้วยการขยายไลน์อัพผลิตภัณฑ์ Bespoke ซัมซุงได้นำเสนอตู้เย็นประเภทต่างๆ พร้อมด้วยตัวเลือกสีที่หลากหลายยิ่งขึ้น ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างห้องครัวที่ปรับแต่งได้เอง เพื่อให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และเข้ากับรูปแบบการตกแต่งภายในบ้านได้ดีมากยิ่งขึ้น
การใช้เวลาอยู่ที่บ้านมากขึ้นทำให้หลายคนได้เรียนรู้การเข้าครัว ซัมซุงจึงช่วยทำให้ห้องครัว “ฉลาดขึ้น” ด้วย SmartThings Cooking บริการช่วยทำอาหารที่ผู้ใช้สามารถออกแบบเองได้ ซึ่งดูแลได้อย่างครอบคลุม ตั้งแต่การค้นหาสูตรอาหารไปจนถึงการวางแผนตารางไดเอท แม้กระทั่งการซื้อวัตถุดิบก็กลายเป็นเรื่องง่ายเพราะ SmartThings Cooking สามารถแนะนำสูตรอาหารและขั้นตอนการทำอาหารที่เหมาะสมกับผู้ใช้ผ่านระบบ Whisk’s Food AI โดยดูจากรสนิยม ความต้องการ และของที่มีอยู่ในตู้เย็น บริการนี้ยังช่วยให้ผู้ใช้เพลิดเพลินไปกับการซื้อวัตถุดิบที่สุดแสนจะสะดวกสบายและครบครัน โดยผู้ใช้สามารถเลือกซื้อจากร้านค้าโปรดที่อยู่ในระบบ Whisk ได้ทันที และเมื่อถึงเวลาทำอาหาร SmartThings จะมอบประสบการณ์การทำอาหารที่สมบูรณ์แบบ ด้วยการเชื่อมต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะของซัมซุงเข้าด้วยกันอีกด้วย
นอกจากนี้ Family Hub ยังทำให้ผู้ใช้สามารถใช้บริการ SmartThings Cooking ผ่านจอแสดงผลบนตู้เย็นได้อย่างสะดวกสะบาย พร้อมๆ กับควบคุมเครื่องใช้ภายในบ้านอื่นๆ ได้อีกด้วย
ไม่หมดเพียงเท่านี้ โซลูชันสำหรับห้องครัวยังมี “ความยั่งยืนมากขึ้น” โดยตู้เย็น Bespoke ถูกออกแบบมาเพื่อให้ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และดีไซน์บานประตูแบบปรับเปลี่ยนได้จะช่วยยืดอายุการใช้งานของตู้เย็นให้ยาวนานขึ้น ซัมซุงมุ่งมั่นสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยมองหาวิธีที่จะนำเทคโนโลยีล้ำสมัยมาไว้ในอุปกรณ์ของเราโดยคำนึงถึงความยั่งยืนไปพร้อมกัน
The Freestyle: การออกแบบจอภาพที่เป็นอิสระจากขีดจำกัดของพื้นที่
▲ นายจองแร คิม จากแผนกธุรกิจภาพและเสียง ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ภูมิใจนำเสนอ The Freestyle โปรเจคเตอร์แบบพกพาใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัวในงาน CES
ถาม: อะไรคือแรงบันดาลใจของทีมผู้คิดค้นผลิตภัณฑ์ The Freestyle
ตอบ: ตั้งแต่สถานการณ์โรคระบาดเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตประจำวันของเรา พื้นที่ส่วนตัวของเราก็มีความสำคัญมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ที่ใช้ผ่อนคลาย เช่น ห้องนอน ที่ผู้คนมองหาและเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อความบันเทิงมากขึ้น นอกจากนี้เรายังพบว่าผู้คนพยายามทำพื้นที่ภายในบ้านให้สะดวกสบายและสงบ เหมาะกับการผ่อนคลายมากขึ้น ในขณะที่ความสนใจเกี่ยวกับกิจกรรมนอกบ้าน เช่น การตั้งแคมป์ ก็มีเพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน เราต้องการสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มของยุคสมัยผ่านผลิตภัณฑ์ของเรา เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ได้ตามที่ต้องการ ทุกที่ ทุกเวลา โดยไม่ต้องคำนึงถึงข้อจำกัดด้านพื้นที่ นี่จึงเป็นเหตุผลที่เราเริ่มสร้าง The Freestyle หน้าจออัจฉริยะขนาดพกพาขึ้นมา
ถาม: จุดเด่นของ The Freestyle คืออะไร
ตอบ: นับเป็นเรื่องง่ายที่จะเห็นความแตกต่างของผลิตภัณฑ์ตัวนี้เพราะ The Freestyle ออกแบบมาเพื่อยกระดับการใช้งานในทุกรูปแบบ เราออกแบบ The Freestyle ให้มีน้ำหนักเบา เพียง 830 กรัม เพื่อให้ผู้ใช้สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้ทุกวัน ความสามารถในการพกพาติดตัวไปได้ทุกที่จึงเป็นความโดดเด่นของ The Freestyle
เพียงกดปุ่มเปิดเครื่องเท่านั้น ผู้ใช้ก็สามารถใช้งาน The Freestyle ได้จากทุกที่ทุกเวลา มาพร้อมกับฟีเจอร์ full auto keystone และ auto leveling ซึ่งใช้สุดยอดเทคโนโลยีช่วยปรับภาพที่ฉายออกมาให้เหมาะสมกับพื้นผิวและองศาโดยอัตโนมัติ ทำให้ได้ภาพที่มีสัดส่วนที่สมบูรณ์แบบในทุกการใช้งาน
ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินกับประสบการณ์การรับชมที่ลื่นไหลและต่อเนื่อง โดยสามารถเข้าใช้งานแพลตฟอร์ม OTT ได้ทันที ยิ่งไปกว่านั้น The Freestyle ยังได้ใช้เทคโนโลยี far-field voice control เป็นผลิตภัณฑ์แรกในอุตสาหกรรมอีกด้วย ทำให้เมื่อเปิดใช้งานผู้ใช้สามารถค้นหาคอนเทนต์ที่สนใจโดยใช้คำสั่งเสียง และเมื่อปิดเครื่องผู้ใช้ยังสามารถใช้อุปกรณ์เพื่อฟังเพลงหรือเช็คสภาพอากาศได้เหมือนกับการใช้งานลำโพงอัจฉริยะ
The Freestyle ให้ความสำคัญกีบคุณภาพของภาพและเสียงซึ่งเป็นคุณสมบัติพื้นฐานและคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของผลิตภัณฑ์จอภาพ เราใช้ระบบเดียวกับซัมซุงทีวีเพื่อคงคุณภาพของภาพ นอกจากนี้ค่าคอนทราสต์ยังสามารถปรับได้โดยอัตโนมัติตามสีและโทนของผนังที่หน้าจอกำลังฉายอยู่ เราใช้ dual passive radiators เพื่อสร้างเสียงเบสที่นุ่มลึกและทรงพลัง ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์เสียงคุณภาพระดับโรงภาพยนตร์ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน
ถาม: ช่วยยกตัวอย่างสถานการณ์การใช้งานรูปแบบต่างๆ ของ The Freestyle ที่ถูกออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้หลากหลายแบบเพื่อความลงตัวกับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ ซึ่งตรงกับวิสัยทัศน์ ‘Screens Everywhere’ ของซัมซุง
ตอบ: The Freestyle เหมาะจะใช้ภายในห้องนอน ผู้ใช้สามารถหมุน The Freestyle ได้อย่างง่ายดายเพื่อย้ายหน้าจอจากผนังไปยังเพดานเพื่อรับชมภาพยนตร์ขณะนอนเล่นอยู่บนเตียงก่อนเข้านอน นอกจากนี้ยังสามารถใช้ The Freestyle ในห้องกินข้าว เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศบนโต๊ะอาหารให้อัดแน่นไปด้วยความบันเทิงที่แปลกใหม่
นักพัฒนาของซัมซุงได้คิดค้นโซลูชันการติดตั้งแบบใหม่ให้กับ The Freestyle เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้จากทุกพื้นที่ โดยผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่อ The Freestyle กับเต้าเสียบไฟ[1]มาตรฐาน E26 เพื่อฉายภาพลงบนโต๊ะหรือบนพื้นได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องใช้แหล่งจ่ายไฟหรือการเชื่อมต่อสายเคเบิลแยกต่างหาก
The Freestyle สามารถรับพลังงานจากแบตเตอรี่แบบพกพา[2] ที่รองรับ USB-PD และเอาต์พุต 50W/20V หรือสูงกว่า ทำให้ผู้ใช้สามารถพกพาติดตัวไปได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเดินทาง ไปการแคมป์ปิ้ง หรือไปทำกิจกรรมกลางแจ้งอื่นๆ เมื่อไม่ได้ใช้เป็นโปรเจคเตอร์เพื่อฉายภาพ The Freestyle ยังสามารถสร้างเอฟเฟกต์ Ambient Light ตามอารมณ์ด้วยโหมดAmbient และฝาปิดเลนส์แบบโปร่งแสงอีกด้วย
ด้วยความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับฝ่ายสร้างประสบการณ์ลูกค้า (Mobile eXperience) ของซัมซุง เราได้ติดตั้งปุ่มเชื่อมต่ออุปกรณ์ Galaxy ให้ผู้ใช้สามารถใช้อุปกรณ์ Galaxy เป็นรีโมทสั่งการได้ทันทีเพียงแค่กดปุ่ม อีกทั้งยังสามารถใช้อินเทอเน็ตจากสมาร์ทโฟนในเวลาที่ไม่มี Wi-Fi ให้เชื่อมต่อได้อีกด้วย ซัมซุงได้พัฒนา The Freestyle ขึ้นมาโดยให้ความสำคัญในทุกรายละเอียด เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานที่สะดวกสบายเหมือนรับชมคอนเทนต์อยู่บ้าน แม้ว่าผู้ใช้จะทำกิจกรรมอยู่นอกบ้านก็ตาม
[1] การเชื่อมต่อกับเต้าเสียบไฟจะถูกนำมาใช้ครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา
[2] ซัมซุงไม่รับผิดชอบต่อแบตเตอรี่ภายนอกของบริษัทอื่น
พบปัญหาด้านการบริการ ติดต่อ samsung.com/th/support สื่อมวลชนต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ nawanuch.s@samsung.com