ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ เปิดตัว SmartThings Home Life พร้อมกันทั่วโลก นำเสนอยุคใหม่ของการใช้ชีวิตที่เชื่อมต่อกันด้วย Family Hub™ เวอร์ชันใหม่ล่าสุด

การเปิดตัว SmartThings Home Life ทั่วโลกและ Family Hub อัพเดตใหม่เพื่อเชื่อมโยงผู้ใช้ทั่วโลกเข้ากับอีโคซิสเต็มของโซลูชันการใช้ชีวิตอย่างชาญฉลาดที่จะขยายประสบการณ์ชีวิตในบ้านอย่างไม่รู้จบ

ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ประกาศเปิดตัว SmartThings Home Life พร้อมกันทั่วโลก ในงาน Bespoke Home 2022 นำเสนอประสบการณ์สมาร์ทโฮมแบบครบครันเพื่อการใช้ชีวิตในบ้านที่สะดวกสบายกว่าที่เคย โดย SmartThings Home Life ของซัมซุงมีกำหนดเปิดตัวใน 97 ประเทศ ในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้

SmartThings Home Life เป็นบริการเสริมใหม่ในแอปพลิเคชัน SmartThings[1] [2]  ให้การควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน[3] ของซัมซุงทั้งหมดแบบรวมศูนย์และครบวงจร เชื่อมต่อความสะดวกสบายของบริการ SmartThings เป็นหนึ่งเดียวครอบคลุมระบบที่จำเป็นในบ้าน 6 หมวดหมู่ ได้แก่ การทําอาหาร การใช้พลังงาน การดูแลเสื้อผ้า การดูแลสัตว์เลี้ยง การดูแลอากาศภายในบ้าน และการดูแลรักษาบ้าน[4] [5] SmartThings Home Life ช่วยขยายคุณภาพชีวิตในบ้านอย่างสมบูรณ์แบบ โดยให้คุณสามารถควบคุมอุปกรณ์ทั้งหมดได้จากสมาร์ทโฟนของคุณเอง เพียงแตะแท็บ “Life” บนแอปพลิเคชัน SmartThings เพื่อนำทางไปยัง SmartThings Home  และปลดล็อกการเชื่อมต่อภายในบ้านไปอีกขั้น

ด้วยพันธมิตรระดับโลกกว่า 270 รายและความสามารถในการผสานรวมกับอุปกรณ์อัจฉริยะนับพัน ปัจจุบัน SmartThings มีผู้ใช้ที่ลงทะเบียนเกือบหนึ่งในสี่ของประชากรพันล้านคน[6] ยิ่งไปกว่านั้น Family Hub™ เวอร์ชันล่าสุดซึ่งจะวางจำหน่ายในเดือนกรกฎาคมนี้ จะช่วยขยายประสบการณ์การใช้ชีวิตในบ้านด้วยฟีเจอร์ AI ใหม่ที่เพิ่มความสะดวกสบายให้กับการจัดการกิจวัตรประจำวันของคุณกว่าที่เคย

“เป้าหมายของเราคือการควบคุมการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์อัจฉริยะเพื่อจัดการกิจวัตรประจำวันและยกระดับการใช้ชีวิตภายในบ้านให้สะดวกสบายมากขึ้น” นายชานวู พัค รองประธานบริหารและหัวหน้ากลุ่มธุรกิจ IoT สำหรับธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ กล่าว “และการเปิดตัว SmartThings Home Life พร้อมกันทั่วโลกนี้ จะช่วยขยายบริการของเราและให้อำนาจผู้ใช้งานทุกคนไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตามได้ใช้เวลาน้อยลงกับงานบ้านประจำวันและมีเวลามากขึ้นที่จะดื่มด่ำกับการใช้ชีวิตในแต่ละช่วงเวลา”

มอบประสบการณ์อันชาญฉลาดและลื่นไหลยิ่งขึ้น ด้วย SmartThings Home Life ที่รวมบริการ SmartThings 6 หมวดหมู่ ดังต่อไปนี้[7]

SmartThings Cooking

SmartThings Cooking[8] คือบริการทำอาหารที่สามารถทำได้ทุกอย่าง ตั้งแต่การค้นหาสูตรอาหาร และตั้งค่าอุปกรณ์โดยอัตโนมัติ ไปจนถึงการจัดการรายการซื้อของและการเก็บรักษาอาหาร[9] SmartThings Cooking ขับเคลื่อนโดย Whisk’s Food AI ที่จะช่วยแนะนำสูตรอาหารและวางแผนมื้ออาหารส่วนบุคคลโดยอิงจากรสนิยมของผู้ใช้ ความต้องการทางโภชนาการ และวัตถุดิบที่มีอยู่ในตู้เย็น ไม่ว่าผู้ใช้จะละลายเนื้อแช่แข็งด้วยบาร์โค้ดหรือซื้อวัตถุดิบผ่านเครือข่าย Whisk[10]  SmartThings Cooking จะสามารถสื่อสารโดยตรงกับเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะในครัวทั้งหมดของซัมซุง[11] อาทิ Family Hub ชุดเตาปรุงอาหารพร้อมเตาอบ เตาอบไมโครเวฟ และเตาประกอบอาหาร เพื่อประสบการณ์การทำอาหารที่ราบรื่นไม่มีสะดุด

SmartThings Energy

รองรับการเชื่อมตัวกับอุปกรณ์ทุกชิ้น[12] ในห้องครัว ห้องนั่งเล่น และห้องซักรีด SmartThings Energy ให้อำนาจผู้ใช้ในการควบคุมการใช้พลังงานภายในบ้าน โดยจะรายงานข้อมูลการใช้พลังงานแบบเรียลไทม์ทั้งเรื่องของพื้นที่และวิธีการใช้งานภายในบ้าน ด้วยการวิเคราะห์พลังงานที่ใช้ผ่านอุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เชื่อมต่อกันบนแพลตฟอร์ม SmartThings บริการ SmartThings Energy จะรายงานการใช้พลังงานแบบรายเดือนและคาดการณ์การใช้พลังงานในอนาคตโดยระบบ AI และด้วยโหมด AI Saving[13] ทำให้ SmartThings Energy สามารถเปิดโหมดประหยัดพลังงานโดยอัตโนมัติบนเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่เชื่อมต่อกันเป็นหนึ่งเดียวกัน ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่าย รวมถึงลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อีกด้วย ในเร็วๆ นี้  ซัมซุงเตรียมเสริมทัพไลน์อัพผลิตภัณฑ์กลุ่ม SmartThings Energy ด้วยเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้า Bespoke AI ใหม่[14] ช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ก่อนที่จะขยายการเชื่อมต่อไปยังอุปกรณ์อื่นๆ ที่ให้ครอบคลุมทั่วทั้งบ้านของคุณ นอกจากนี้ โครงการนำร่อง Zero Energy Home ของซัมซุงซึ่งพัฒนาขึ้นโดยความร่วมมือกับ Q-CELLS เพื่อการจัดการบ้านให้มีความสามารถในการใช้พลังงานแบบพอเพียง ได้ติดตั้งระบบ Zero Energy Home ในบ้าน 30 หลังของโครงการยูโทเปียที่กำลังดำเนินการอยู่และจะแล้วเสร็จในอนาคตอันใกล้ โดยโปรแกรมนี้จะได้รับการขยายไปใช้ในครัวเรือนอื่นๆ มากขึ้นในอนาคต โดยผสานพลังของโซลูชัน SmartThings Energy เข้ากับแผงโซลาร์เซลล์และระบบกักเก็บพลังงานของ Q CELLS

SmartThings Clothing Care

SmartThings Clothing Care ระบบช่วยดูแลเสื้อผ้าอัจฉริยะที่จะเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ดูแลเสื้อผ้าทั้งหมดของคุณ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องอบผ้า Bespoke, Bespoke AirDresser, Bespoke ShoeDresser[15] และเครื่องซักผ้าระบบ AI ทั้งหมดของซัมซุง เพื่อมอบบริการจัดการเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของคุณ ซึ่งบริการนี้จะมีตัวเลือกการดูแลที่สามารถคัสตอมไมซ์ได้ตามประเภทผ้าของคุณ ยิ่งไปกว่านั้น SmartThings Clothing Care ยังให้บริการคำแนะนำที่ใช้งานได้จริงผ่าน AI ตามรูปแบบการใช้งานและฤดูกาล และมีระบบแจ้งเตือนให้ซื้ออุปกรณ์ซักรีดเป็นประจำเพื่อการดูแลเสื้อผ้าของคุณให้สดใสและมีผลิตภัณฑ์ที่พร้อมสำหรับการซักรีดเสมอ[16]

SmartThings Pet Care

เจ้าของสัตว์เลี้ยงสามารถอุ่นใจได้ เพราะคุณสามารถดูแลเพื่อนรักขนฟูได้แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ที่บ้านก็ตาม เมื่อสัตว์เลี้ยงอยู่ตามลำพังที่บ้าน SmartThings Pet Care จะเล่นเพลงหรือรายการทีวีโดยอัตโนมัติ[17] ให้ความรู้สึกปลอดภัยและเป็นมิตร ทั้งยังสามารถจับตาดูสัตว์เลี้ยง[18] ของคุณได้จากระยะไกลด้วยกล้องอัจฉริยะในเครื่องดูดฝุ่น Bespoke Jet Bot™ AI+ นอกจากนี้ คุณสามารถปรับตั้งค่าเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน อาทิ ไฟ เครื่องปรับอากาศ เครื่องฟอกอากาศ และอื่นๆ เพื่อความสะดวกสบายและปลอดภัยที่มากขึ้นสำหรับเหล่าสัตว์เลี้ยงในขณะที่คุณไม่อยู่บ้าน

SmartThings Air Care

SmartThings Air Care[19] บริการที่จะคอยอัพเดตข่าวสารสำคัญเกี่ยวกับคุณภาพอากาศทั้งภายในและภายนอกบ้านของ ซึ่งให้คุณสามารถมอนิเตอร์คุณภาพอากาศและการฟอกอากาศทั้งหมดได้ในที่เดียว ด้วยการควบคุมแบบรวมศูนย์ (Centralized Control) ของเครื่องปรับอากาศ Bespoke เครื่องฟอกอากาศ Bespoke[20] และอื่นๆ อีกมากมาย[21] คุณจะหายใจได้อย่างเต็มปอดเมื่อรู้ว่าอากาศที่บ้านของคุณสดชื่นและสะอาดด้วย SmartThings Air Care

SmartThings Home Care จะคอยติดตามดูเครื่องใช้ไฟฟ้าของซัมซุงในครัวเรือนที่เชื่อมต่อด้วยกันทั้งหมด รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า Bespoke โดยจะคอยตรวจสอบสถานะและรูปแบบการใช้งาน ให้ข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์เสริม และช่วยให้ผู้ใช้สามารถซื้อสินค้าออนไลน์ได้อย่างสะดวก บริการนี้จะส่งการแจ้งเตือนและแนะนำผู้ใช้เกี่ยวกับการบำรุงรักษาเครื่องใช้ไฟฟ้าตามข้อมูลการใช้งานที่ได้บันทึกไว้ เช่น การทำความสะอาดอุปกรณ์และการเปลี่ยนชิ้นส่วนของแต่ละเครื่องใช้ไฟฟ้า เมื่อมี SmartThings ช่วยดูแลบ้าน คุณสามารถแก้ไขปัญหาง่ายๆ ของเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน ได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องพึ่งช่างซ่อมเลยทีเดียว

นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2016 ตู้เย็น Family Hub ได้รับการอัพเดตอย่างต่อเนื่องเพื่อมอบประสบการณ์การเชื่อมต่อที่ทันสมัยสำหรับผู้ใช้ตู้เย็นของซัมซุง โดยเปลี่ยนตู้เย็นให้กลายเป็นศูนย์กลางการสื่อสารและความบันเทิงสำหรับห้องครัว ยิ่งไปกว่านั้น Family Hub ยังทำหน้าที่เป็นตัวควบคุมบ้านผ่านแอปพลิเคชัน SmartThings อีกด้วย สำหรับการอัปเดตล่าสุดที่จะเปิดตัวในเดือนกรกฎาคมนี้ Family Hub จะมาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ที่พร้อมมอบความบันเทิงมากกว่าที่เคย รวมถึงฟีเจอร์อัจฉริยะ และการเชื่อมต่อเป็นหนึ่งเดียวกับห้องครัวมากยิ่งขึ้น อาทิ Smart Reorders[22] ที่จะช่วยให้ผู้บริโภคสั่งซื้อและเปลี่ยนไส้กรองน้ำได้อย่างง่ายดาย ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินกับความบันเทิงขณะทำอาหารได้ด้วยแอปพลิเคชั่น Samsung TV Plus[23] ที่จะให้ผู้ใช้สนุกไปกับรายการสดทางทีวีที่หลากหลาย รวมถึงข่าว เพลง รายการสำหรับเด็ก และรายการอาหาร Atelier ที่จะมอบงานศิลปะที่สวยงามในการตกแต่งห้องครัวและหน้าจอตู้เย็น ขณะที่ Dual AI Voice Assistant ช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึงการใช้งานฟีเจอร์ Alexa[24] ของ Amazon และ Bixby ของซัมซุงบนอุปกรณ์เพียงเครื่องเดียว นอกจากนี้ เทคโนโลยีการจดจำอาหาร[25] ที่ได้รับการอัพเกรดของ Family Hub จะช่วยให้ผู้ใช้ระบุและจัดการเมนูอาหารและเครื่องดื่มได้ดียิ่งขึ้น และ Smart Recipes ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างสรรค์อาหารมื้ออร่อยด้วยคำแนะนำที่ปฏิบัติตามได้อย่างง่ายดาย

ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SmartThings Home Life ได้ที่ Samsung.com และ Samsung Newsroom

[1] แอปพลิเคชัน SmartThings จะต้องติดตั้งและเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เพื่อใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ โดยข้อกำหนดของแอปพลิเคชันอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแต่ละอุปกรณ์ ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้จาก Google Play Store หรือ App Store โดยแอปพลิเคชันนี้ใช้งานได้กับ Android 8.0 ขึ้นไป (RAM 2GB ขึ้นไป) และ iOS 13.0 ขึ้นไป

[2] จำเป็นต้องใช้การเชื่อมต่อ Wi-Fi และบัญชีซัมซุง เพื่อประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่น

[3] ฟีเจอร์และบริการ SmartThings ที่รองรับอาจแตกต่างกันไปตามอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ

[4] จำเป็นต้องติดตั้งบริการในแอปพลิเคชัน SmartThings เพื่อการเข้าถึง

[5] รุ่นที่ใช้งานได้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ

[6] อ้างอิงจากตัวเลขปัจจุบัน ณ เดือนมิถุนายน 2565

[7] ความพร้อมใช้งานของบริการและเนื้อหาของ SmartThings Home Life ทั้ง 6 หมวดหมู่อาจแตกต่างกันไปตามประเทศและภูมิภาค

[8] ฟีเจอร์นี้มีเฉพาะในเครื่องใช้ไฟฟ้าบางรุ่นเท่านั้น ซึ่งอาจแตกต่างไปตามแต่ละประเทศ โดยต้องติดตั้งบริการ “ทำอาหาร” (Cooking) ไว้ล่วงหน้าในแอปพลิเคชัน SmartThings เพื่อใช้งานฟีเจอร์นี้

[9] สูตรและบริการที่มีให้สำหรับแต่ละภูมิภาคอาจแตกต่างกันไป

[10] ความพร้อมใช้งานขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศ

[11] ฟีเจอร์นี้สามารถใช้ได้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าบางรุ่นเท่านั้น

[12] ใช้ได้กับผลิตภัณฑ์ที่มีการเชื่อมต่อ Wi-Fi เท่านั้น

[13] AI Saving Mode ใช้ได้กับเครื่องซักผ้าของปี 2022 บางรุ่นเท่านั้น

[14] เครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้า Bespoke พร้อมโหมด AI Saving จะเปิดตัวในเดือนกรกฎาคมสำหรับตลาดยุโรป

[15] ShoeDresser มีจำหน่ายแล้วในประเทศเกาหลีใต้

[16] ในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี และ สเปน  ผู้ใช้งานสามารถจัดการผลิตภัณฑ์ซักรีดและซื้อสินค้าผ่าน Alexa Smart Reorder ส่วนในประเทศอื่นๆ ผู้ใช้สามารถจัดการผลิตภัณฑ์สำหรับซักรีดผ่าน Clothing Care

[17] จำเป็นต้องเชื่อมต่อทีวีหรือแอปพลิเคชันฟังเพลง

[18] ฟีเจอร์ในการจดจำวัตถุใช้ได้เฉพาะกับสัตว์เลี้ยงเท่านั้น และสภาพแวดล้อมโดยรอบอาจมีผลกระทบต่อการใช้งานฟีเจอร์

[19] ปัจจุบัน SmartThings Air Care มีให้บริการแล้วในประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศเกาหลีใต้

[20] SmartThings Air Care มีเฉพาะในเครื่องปรับอากาศ Bespoke ที่จำหน่ายในประเทศเกาหลีใต้และเครื่องฟอกอากาศ Bespoke ในประเทศสหรัฐอเมริกาและเกาหลีใต้เท่านั้น

[21] ผลิตภัณฑ์ที่รองรับ ได้แก่ เครื่องปรับอากาศ เครื่องฟอกอากาศ แอร์มอนิเตอร์ ระบบปรับอากาศ และ Smart Hood

[22] Smart Reorders ใช้ได้เฉพาะผู้ใช้ Amazon Prime ที่อาศัยอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้น

[23] Samsung TV Plus มีให้บริการในประเทศเกาหลีใต้และประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้น

[24] Amazon Alexa มีให้บริการในประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศแคนาดาตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ปี 2022 และจะเปิดตัวในประเทศสหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอินเดียในไตรมาสที่ 3 ปี 2022

[25] เทคโนโลยีการจดจำอาหารที่ได้รับการอัพเกรดมีเฉพาะในประเทศเกาหลีใต้และประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้น